ดวงจันทรี

ดวงจันทรี หรือดวงมาลาโยค

คือ ดวงชะตาที่มีความคล้ายกับจันทร์ข้างแรมหรือจันทร์เสี้ยวกล่าวคือมีพระเคราะห์๘ องค์สมัยก่อนยังไม่มีมฤตยูกับเกตุค่ะ กับลัคนาสถิตเรียงกันอยู่ในราศีติดๆกันจะมีกี่ราศีก็ได้ เว้นแต่จะสถิตราศีเดียวกันเรียกว่า" ดวงเอกราศี "

ซึ่งจะหาได้ยากมาก ดวงเอกราศีจะค่อนข้างหาได้ยาก ดวงเอกราศีจะมีคุณภาพสูงสุดเหนือดวงอื่นหากเป็นราศีนรราศี เพราะดาวที่กุมลัคนาล้วนเป็นองค์เกณฑ์เข้ากฎนรเอกเกณฑ์ ถ้าเป็นราศีประเภทอื่น อันได้แก่ ปัศว,อัมพุ หรือกีฏะราศีคุณก็อาจจะถูกทอนลงไป

สำหรับดวงจันทรีนั้น ท่านเรียกชื่อแยกออกไปอีกคือ

ก. ถ้ามีลัคนาอยู่กลางหรือค่อนข้างไปทางกลาง เว้นอยู่หน้าสุดและหลังสุดเรียกว่า "ดวงลัคนาคุมพล"

ข. ถ้าลัคนาอยู่หน้าสุดคืออยู่ในราศีซึ่งอยู่หน้าสุดของขบวน จะมีดาวกุมลัคนาหรือไม่ก็ตาม เรียกว่า "ดวงลัคนานำพล"

ค.ถ้าลัคนาอยู่หลังสุด คือสถิตราศีซึ่งอยู่ท้ายสุดของขบวนจะมีดาวกุมลัคน์หรือไม่ก็ตาม เรียกว่า "ดวงลัคนาขับพล"

ดวงจันทรีทุกชนิดดังกล่าวมาแล้วนี้จัดเป็นดวงนักสู้ และมีชัยชนะในการสู้หรือผจญโลกผจญชีวิต เว้นแต่ถ้าเป็นดวงที่มีบาปเคราะห์เกาะกุมรุนแรงก็อาจจะเป็นผู้ร้ายหรือผู้ต้องโทษได้

ในส่วนของดวงลัคนาคุมพล นั้นเคยได้นำเสนอไปแล้วคือดวงพระราชสมภพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งมักปรากฎในปูมโหร ในรายละเอียดนำมาบรรยายเพิ่มเติม คือวิธีการอ่านตนุเกษตรกระทบเรือนชะตา ดังนี้

พระราชลัคนาสถิตราศีพฤษภมีจันทร์เป็นอุจจ์กุม และ มีพุธสถิตเป็นองค์ปัศวะเกณฑ์ บ่งถึงความสำเร็จในพระราชกิจในการกู้กรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ เพราะมีดาวอาทิตย์เป็นตนุลัคน์ของเรือนพันธุและตนุเศษกุมกับอังคารคู่ศัตรูจากเรือนวินาสน์ ความหมายคือการสูญเสียพระนครและได้กอบกู้กลับคืนมา โดยอังคารนั้นหมายถึงการมีศัตรูเป็นเพื่อน คือพระมหาอุปราชาแห่งหงสาวดีซึ่งเป็นรัชทายาทและเป็นอริราชศัตรู

ดาวศุกร์ ตนุลัคน์สถิตจรราศีบ่งถึงน้ำพระทัยเด็ดเดี่ยวมั่นคงโดยดาวศุกร์ตนุลัคน์นั้นอยู่ในเรือนของเสาร์เจ้าเรือน ศุภะซึ่งไปอยู่ภพวินาสน์ น้ำพระทัยเด็ดเดี่ยวของพระองค์จึงเป็นเรื่องของการกอบกู้บ้านเทืองหรือกรุงศรีอยุธยา และทรงครองราชสมบัติคู่กับพระอนุชาธิราชเพราะพระจันทร์ที่กุมลัคนามาจากเรือนสหัชชะเป็นอุจจ์ และดาวจันทร์นั้นบ่งถึงการที่ทรงเป็นที่รักใคร่ของข้าทาส บริวาร

สาวนดาวพระพฤัสบดี๕ ก็เป็นอุจจ์ในเรือนสหัชชะ ทรงทำงานร่วมกับพระอนุชาธิราชและได่ทรงประสบความสำเร็จ ดาวราหูในเรือนดกุมพะ นั้น หมายถึงราชสมบัติที่สูญเสียไปแล้วได้กลับคืนมาเป็นพระราชทรัพย์จากการกอบกู้เอกราช การที่พระองค์ทรงระประชวรด้วยไข้ทรพิษ ทำให้พระพักตร์เสียโฉม เพราะ ดาวศุกร์ไปสถิตในเรือนเสาร์ซึ่งเป็นเรือนศัตรู และเสาร์นั้นเข้าไปสถิตในราศีเมษตำแหน่งนิจ ทำให้ดาวจันทร์นั้นถูกบีบทั้งจาก เสาร์๗และ ราหู๘

ตัวอย่างดวงลัคนานำพล

พลเรือเอก หม่อมเจ้าครรชิต อาภากร อดีดผู้บัญชาการทหารเรือและสมุหราชองค์รักษ์ ประสูติเมื่อ วันอังคารที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๔๔๙ ปีมะเมีย จศ ๑๒๖๓ เวลา ๑๔.๔๕ นาฬิกา ดวงนี้เป็นดวงลัคนานำพลหมดทุกองค์ แม้เสาร์ซึ่งเป็นดาวแตกออกไปจากแนวก็กลับเข้ามากลมกลืนกันได้ในฐานะเป็นพระเคราะห์องค์เกณฑ์แก่ดาวพุธ องค์ตนุลัคน์ตามสูตรปัศวทศเกณฑ์ เพราะ องค์ตนุลัคน์ คือดาวพุธสถิตย์ราศีพฤษภอันเป็นปัศวราศี เสาร์นั้นสถิตราศีกุมภ์อันเป็นภพที่๑๐ ของลัคนา จึงเป็นองค์ปัศวเกณฑ์แก่ ดาวอาทิตย์๑, ดาวจันทร์ ๒, ดาวอังคาร ๓, ดาวพุธ ๔และ ดาวพฤหัสบดี ๕ ในราศ๊พฤษภ มีผลเท่ากับเสาร์มาสถิตย์ในราศ๊พฤษภด้วย พระเคราะห์ได้มาตรฐานเกือบทุกองค์คือ ดาวอาทิตย์๑ เป็นอุจจาภิมุข, ดาวจันทร์เป็นอุจจ์, ดาวราหู๘เป็นจุลจักร, ดาวอังคาร๓เป็นประและ ราชาโชค, และ ๔แลกเรือนเกษตร

พลเรือเอก หม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร (๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๙ – ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๙) เป็นพระโอรสในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ประสูติแต่หม่อมช้อย อาภากร ณ อยุธยา (สกุลเดิม วิจิตรานุช) และเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๗  สืบต่อจากพลเรือเอก สวัสดิ์ ภูติอนันต์ นอกจากนั้นหม่อมเจ้าครรชิตพล อาภากร ยังดำรงตำแหน่งผู้ช่วยทูตทหารเรือ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖-พ.ศ. ๒๔๙๐ อีกด้วย

ตัวอย่างดวงลัคนาขับพล

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระปิตุจฉาเจ้า สุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี ประสูติเมื่อวันพุธ ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๘ ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๒๔ ในพระบรมมหาราชวัง มีพระโสทรเชษฐภคินีพระองค์เดียว คือสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าสุทธาทิพยรัตน์ กรมหลวงศรีรัตนโกสินทร

์

เมื่อทรงสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยเสนาธิการ ประเทศเยอรมนี เมื่อเสด็จกลับมารับราชการ สมเด็จพระบรมชนกนารถทรงพระราชดำริว่าพระนามกรมเดิมไม่สมพระเกียรติยศ จึงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เปลี่ยนพระนามกรมเป็น กรมขุนนครสวรรค์วรพินิต ตั้งแต่วันที่๒๒ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๔ พระองค์ประทับที่ วังบางขุนพรหม ซึ่งเป็นวังที่มีความใหญ่โตโอ่อ่าที่สุด กอรปกับทรงมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญต่าง ๆ มากมาย จึงได้รับการกล่าวขานอีกฉายาหนึ่งจากคนทั่วไปว่า "จอมพลบางขุนพรหม" หรือ "เจ้าฟ้าวังบางขุนพรหม" ทรงเป็นต้นราชสกุลบริพัตร

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงซอได้ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระองค์ทรงเครื่องดนตรีไทยได้หลายชนิด เช่น ฆ้องวงใหญ่ ระนาด ซอ ทั้งยังทรงเปียโนได้ดีอีกด้วย โปรดใช้เวลาว่างส่วนพระองค์ในการศึกษาวิชาดนตรี ทั้งด้านประสานเสียงและการประพันธ์เพลง จนทรงสามารถประพันธ์เพลงและทำหน้าที่เป็นวาทยากรได้อย่างคล่องแคล่ว เมื่อพระองค์เสด็จมาประทับที่วังบางขุนพรหม ทรงมีทั้งวงปี่พาทย์และวงเครื่องสายประจำวัง

พระองค์ทรงพระนิพนธ์เพลงไทยประสานเสียงแบบดนตรีสากล เช่น เพลงมหาฤกษ์ เพลงมหาชัย เพลงสรรเสริญเสือป่า เพลงสาครลั่น และทรงแยกเสียงประสานเพลงไทยสำหรับบรรเลงด้วยวงโยธวาทิต ทำให้แตรวงบรรเลงเพลงไทยได้ไพเราะ มีหลักการประสานเสียงดียิ่งขึ้น ได้ทรงประดิษฐ์เพลงแตรวงไว้หลายเพลง เช่น โหมโรงสะบัดสะบิ้ง เพลงเขมรใหญ่ เถา เพลงแขกมัสหรี เถา เพลงแขกสี่เกลอ เถา

เพลงที่พระองค์ทรงพระนิพนธ์ไว้ทั้งสำหรับวงโยธวาทิตและวงปี่พาทย์ เช่น เพลงแขกมอญบางขุนพรหม เถา (พ.ศ. ๒๔๕๓) เพลงพม่าห้าท่อน เถา เพลงแขกสาย เถา (พ.ศ.๒๔๗๑) เพลงพ่าห้าท่อน เถา เพลงพวงร้อย เถา

ดวงชะตานั้นพระลัคนาสถิตราศีเมษ มีพะเคราะห์ ๓เกษตร ดาวศุกร์๖เป็นประ และ ดาวเสาร์ ๗ เป็นนิจ รวมทั้ง ดาวพฤหัสบดี ๕ กุมลัคนา ส่วนดาวอาทิตย์ ๑กับ ดาวพุธ ๔เป็นเกษตร สถิตภพสหัชชะ และดาวอังคาร๓ เป็น เกษตร ส่วนดาวจันทร์๒ สถิตย์เรือนเกษตรพันธุ ราหูเป็นอุจจ์ในเรือนมรณะ แต่ดวงพระชะตายังไม่เป็นดวงลัคนาขับพลแท้เพราะภพกดุมะนั้นว่างไม่มีดาวสถิตย์ และดาวราหู๘ไปอยู่ห่างไปในภพมรณะ

ขอบคุณข้อมูลประวัติบุคคลจากวิกีพีเดียและขออนุญาตนำพระประวัติของแต่ละพระองค์และท่านมาเป็นตัวอย่างการศึกษาด้านโหราศาสตร์

ขอบคุณค่ะ #zodietcwise และฝากอ่านเรื่องต่างๆในบล็อกด้วยค่ะ

หากสนใจดูดวง อินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ หรือจะนัดให้ทำนายทางไลน์ก็ได้ค่ะ https://line.me/ti/p/DxUHcrL7-M

ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร, อาจารย์ศ.ดุสิต,อาจารย์พันเอก(พิเศษ)เอื้อน มนเทียรทอง,อาจารย์ดำริห์ ไตรรัตน์, อาจารย์พลูหลวง รวมทั้งหลายท่านอาจารย์และบรมครูโหราศาสตร์ที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้