อังคาร๓ เดินมนท์

อังคาร๓ เดินมนท์ในราศีเมษ

ตั้งแต่ปลายสิงหาคม แล้วค่ะ คำว่า "มนท์" ตัวย่อ ม. ในปฎิทิน สุริยยาตร์คือ การเดินวิปริตเรียกว่าดาววิกลคติ เชื่องช้ากว่าปกติ มนท์และเปลี่ยนเป็นโคจรย้อนกลับวิถี คือถอยหลังข้ามราศี หรือ เรียกว่า "พักร"ตัวย่อ พ. ในปฎิทินสุริยยาตร์ ในวันนี้ ๑๕ กันยายน จนถึง ๒๓พฤศจิกายน และจะเริ่มเดินมนท์๒๔พฤศจิกายน จนถึง ๑๘ ธันวาคมแล้วเดินหน้าจากราศีมีนไปสู่ราศีเมษ

นอกจากนี้อีกลักษณะของดาววิกลคติคือ เสริดซึ่งหมายถึงการที่พระเคราะห์ที่เดินเร็วกว่าปกติการที่ดาววิกลคติ เปรียบเสมือนคนเดินไม่ปกติมีการเปลี่ยนการโคจรจากเดิม คือเคยเดินหน้าไปเรื่อยๆวันละเท่านั้นเท่านี้ลิปดา แต่จู่ๆก็กลับเดินถอยหลังซะ นอกจากนี้แล้วบางทีก็ทำเป็น ขี้เกียจไม่ยอมเดินหรือเดินช้าๆเหมือนคนทอดน่องไม่กระฉับกระเฉง คือวันนี้องศาลิปดาเท่าไหร่ พรุ่งนี้ก็องศาลิปดาเท่าเดิม หรือเคยเดินวันละ๒๐ ลิปดาแต่คราวนี้เดินวันละ ๔๐-๕๐ลิปดาหรือเรียกว่าวิ่งเลยก็ได้

อัตราการโคจรของดาวเคราะห์ตามปกติ

ดาวอาทิตย์ ๑ โคจรวันละ ๑องศาหรือ ๖๐ ลิปดา

ดาวจันทร์ ๒ โคจรวันละ ๑๒ องศาหรือ ๗๒๐ ลิปดา

ดาวอังคาร๓ โคจรวันละ ๔๕ ลิปดา

ดาวพุธ ๔ โคจรวันละ ๑ องศาหรือ๖๐ลิปดา

ดาวพฤหัสบดี ๕ โคจรวันละ ๔-๕ ลิปดา

ดาวศุกร์ ๖ โคจรวันละ ๑องศาหรือ๖๐ลิปดา

ดาวเสาร์๗ โคจรวันละ ๒ ลิปดา

ดาวราหู๘ โคจรวันละ ๓ ลิปดา

ดาวเกตุ๙ โคจรวันละ ๓๒ ลิปดา

ดาวมฤตยู ๐ โคจรวันละ ๔๓ ลิปดา

ดาวอาทิตย์๑,ดาวจันทร์๒,ดาวราหู๘,ดาวเกตุ๙ โคจรปกติไม่มีมนท์,พักร,เสริด แต่การโคจรของดาวราหู๘, ดาวเกตู๙ จะย้อนราศีตามเข็มนาฬิกาไม่เหมือนดาวเคราะห์อื่น

ส่วนดาวอังคาร๓,ดาวพุธ๔,ดาวพฤหัสบดี๕,ดาวศุกร์๖,ดาวเสาร์๗,ดาวมฤตยู๐ มีการโคจร มนท์,พักร,เสริดและปกติ

การจรมนท์หรือพักรของดาวอังคาร ๓ซึ่งเป็นดาวบาปเคราะห์นั้นมีคำทำนายเป็นบทกลอนตามคัมภีร์พระอภิธรรมอรรถสาลินีของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ไว้ในทางร้ายหรือเสื่อมถอยคุณภาพ โดยเฉพาะการโคจรพักร คือถ้าพักรในจังหวะให้คุณก็ให้แรง แต่ถ้าพักรในฐานให้โทษก็ให้แรง อาจารย์เทพท่านกล่าวว่าตามที่ได้สังเกตุมาขณะที่มีวิถีจรพักร เมื่อย่างสู่ราศีที่แรกเป็นปกติมักจะยังไม่บันดาลผลให้ต่อเมื่อโคจรผ่านพ้นไปและแปรวิถีจักรพักรกลับ ระยะที่พักรนี้จะบันดาลผลออกมาทันที

ซึ่งคงต้องดูว่า สำหรับดวงชะตาแต่ละท่านนั้นหากดาวอังคารจรในลักษณะมุมบีบหน้าลัคนาหรือหลังลัคนากับดาวบาปเคราะห์ในเรือนที่๒และเรือนที่๑๒ ยิ่งหากพระเคราะห์ที่อยู่หน้าลัคนานั้นเป็นพระเคราะห์ที่มีวิถีจักรโคจรพักรและพระเคราะห์ที่ตามหลังนั้นเป็นพระเคราะห์ที่โคจรตามปกติคือเวียนอุตราวรรต ดาวเคราะห์ทั้งสองนั้นกำลังเคลื่อนบีบเข้าหากันทั้งสองด้าน ด้วยหรือไม่ นอกจากนี้การเดินพักรแล้วกระทบหรือสัมพันธ์กับดาวอื่นที่ดีในชะตาก็จะทำให้เกิดผลไม่ดีตามมา จะไม่ดีอย่างไรก็ต้องไปดูว่าดาวที่ถูกสัมพันธ์นั้นทำหน้าที่อะไรและดาววิกลคติที่ไปทับนั้นทำหน้าที่อะไร สรุปแนวทางการตีความหมายในการทำนายลักษณะวิกลคติ ของอาจารย์ศ.ดุสิต ดังนี้

๑.มนท์ คือนิ่งอยู่กับที่หรือเดินช้ามาก หมายถึงความไม่ก้าวหน้า,ความล่าช้า,สิ่งที่ต้องรอคอย,ความทุกข์ทน,ความยาวนาน

๒.พักร คือ ถอยหลัง หมายถึงความบิดเบี้ยวพิกลพิการ,ความเชื่องช้า,ความไม่ก้าวหน้า,การบิดเบือนต่างๆ,ความผิดหวังหรือทำสิ่งที่ง่ายให้เป็นเรื่องยาก

๓.เสริด คือ เดินเร็วมาก หมายถึงความเร่งร้อน,ความผิดพลาดที่มีโอกาสเกิดขึ้นสูง,สิ่งที่จะมาถึงในเร็ววัน,การดิ้นรน ในด้านดีคือความกระฉับกระเฉง,กระชุ่มกระชวย,หรือกระปรี้กระเปร่า

อีกเรื่องนึงที่อาจารย์กล่าวคือการที่ดาวมีแรงเอื้อมที่จะส่งกระแสไปข้างหน้าค่ะ ตามที่ทราบกันคือส่งไปเมื่อราศีนั้นมีดาวลอยอยู่(จรหรือเดิมก็ได้) ส่งไปเพื่อเพิ่มความหมายของดาวนั้นกับดาวเดิมหรือจรในภพนั้นๆ

-ดาวอังคารมีแรงเอื้อมที่จะส่งกระแสไปยังราศีที่๔และ๘

-ดาวเสาร์มีแรงเอื้อมถึงราศีที่๓และที่๑๐จากตัวเอง

-พฤหัสบดีมีแรงเอื้อมถึงราศีที่ ๕

ดังนั้นทิศทางของกระแสก็ย่อมเปลี่ยนไปตามทิศทางที่ตัวเองมุ่งหน้าด้วยค่ะ ตามภาพตัวอย่าง

แต่การใช้ทิศทางแรงเอื้อมทำนายชะตาประกอบก็ต้องดูหลายอย่างประกอบกันค่ะ เพราะการเดินย้อนหลังนั้นในบางตำราว่ากำลังของดาวเองก็จะลดลง ดังนั้นดาวบาปเคราะห์หากอยู่ตำแหน่งให้โทษเมื่อกระทบดาวเดิมหรือดาวจร(ที่เป็นคู่ศัตรู)ก็จะมีลักษณะหน่วงช้า เช่นกันกับดาวศุภเคราะห์เมื่อกระทบดาวเดิมหรือดาวจร(ที่เป็นคู่มิตรหรือคู่สมพล)หากจะใ้ห้คุณก็จะไม่ให้เติมที่หรือเป็นลักษณะทางอ้อมค่ะ ในการประกอบคำทำนายต้องดูประกอบกันหลายส่วนทั้งตำแหน่งของดาวนั้นและดาวเดิมและความหมายของเรือนภพนั้น

ดาวที่เดินวิกลคติเก่งที่สุดคือดาวพุธ ปกติดาวพุธเดินราศีละหนึ่งเดือน ในช่วงเวลาวิกลคติคือในหนึ่งเดือนดาวพุธโคจรถึงสามราศีก็มี คือต้นเดือนอยู่ราศี๑ กลางเดือนอยู่ราศี๒ พอปลายเดือนโดดไปอยู่ราศี๓ บ่อยๆ รองมาคือดาวศุกร์ เดินเสริดเดือนละสองราศีเพราะว่าดาวศุกร์ห่างจากดาวอาทิตย์มากกว่าดาวพุธนั่นเอง แต่เวลาดาวศุกร์วิกลคติก็จะทำให้ชะตาปั่นผ่วนเรื่องเกี่ยวกับความรักหรือการเงิน ส่วนดาวพฤหัสบดีหากหยุดนิ่งก็ทำให้ประสบความสำเร็จในชีวิตในลักษณะเชื่องช้า ดาวอังคารเสริดจะทำให้เป็นบุคคลกล้าแข็ง หรือมีชีวิตต่อสู้ตั้งแต่ยังอายุน้อย ดาวเสาร์เสริดตำราว่าจะทำให้เจ้าชะตาได้รับความลำบากตั้งแต่เล็กๆหรือต้องพลัดพราก หากโคจรมนท์หรือพักรจะให้ผลคุณสมบัติของดาวนั้นมีสภาพจำกัดไม่แน่นอน มีพัฒนาการช้า

ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริบุตรและอาจารย์ศ.ดุสิต รวมทั้งหลายท่านที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้ 

ติดตามอ่านบทความและฝากกดติดตามเรื่องของโหราศาสตร์ได้ที่นี่ www.zodietcwise.blogspot.com

ขอบคุณมากค่ะที่ติดตามเพจ facebook.com/zodietcwise และกดเป็นเพื่อนกันค่ะ