ความสำคัญของดาวบวก-ดาวลบ
หากจำได้เรื่อง #ปัตนิกับราศีบอกเพศ https://zodietcwise.blogspot.com/2022/07/blog-post_5.html เพราะการจำแนกเพศในทางโหราศาสตร์ไทยนั้น สามารถนำมาแบ่งเป็น ลักษณะด้านบวก-ลบก็ได้ ในตำราของอาจารย์พลูหลวงได้กล่าวว่า ในทางลัทธิฮินดูนั้น ได้แยกแยะเพศของธรรมชาติไว้หมด เช่นสิ่งที่นูนออกมาเรียกว่าเพศชาย ส่วนที่เว้าหรือเป็นหลุมลึกคือเพศหญิง เช่นภูเขาคือเพศชาย บ่อนำ้เป็นเพศหญิง หรือภูเขาเป็นฝ่ายบวก ส่วนบ่อน้ำเป็นฝ่ายลบ ถ้วย ชาม หม้อไห โอ่งน้ำล้วนเป็นเพศหญิง ส่วนไม้ตีพริก สากตำข้าว มีดดาบเป็นเพศชาย
หากพิจารณาในแง่ของธาตุนั้น ก็มีเพศของตน เช่นกัน คือ ธาตุไฟกับธาตุลมตรงข้ามกัน ไฟเป็นธาตุซึ่งสามารถเพิ่มพูนได้อย่างไม่สิ้นสุด เปลวไฟลุกฟูขึ้นเป็นลักษณะของเพศชาย ส่วนลมเป็นธาตุที่กระจายตัวเองให้ลดน้อยลงมีช่องว่างของอากาศที่ไหนลมก็จะไหล ไปสู่แอ่งนั้นลมจึงเป็นเพศหญิง ส่วคู่ของธาตุดินและน้ำนั้น อันธรรมชาติของดินนั้นมีแต่จะเพิ่มพูนขึ้นเช่นแผ่นดินมักสูงขึ้นด้วยตะกอนทับถมของสิ่งต่างๆ ลักษณะนูนของภูเขาของต้นไม้สรรพสิ่งก่อสร้างต่างๆล้วนคือเพศชาย ส่วนน้ำมีธรรมชาติไหลสู่เบื้องต่ำ กระจายตัวเองไม่อาจรวมตัวได้เว้นแต่จะไหลไปรวมอยู่ในบ่อหรือแอ่ง น้ำจึงเป็นเพศหญิง
ดังนั้นดวงดาวและจักรราศีจะสามารถจำแนกออกเป็นราศีฝ่ายบวกและลบตามลักษณะของธาตุดังที่กล่าวมาแล้วคือ ธาตุไฟและดินเป็นฝ่ายบวกหรือเพศชาย ส่วนธาตุลมและน้ำเป็นฝ่ายลบหรือเพศหญิง
อาทิตย์คือฝ่ายบวกเพศชาย ธาตุไฟ เพราะคนที่ดาวอาทิตย์กุมลัคนามักชอบให้ผูคนมาเอาใจ มาเป็นลูกน้องหรือมีบริวารเพื่อเพิ่มพูนบุคคลิกของตนเอง รวมทั้งมักจะเป็นคนหยิ่ง ไว้ตัว ดื้อรั้น ไม่ค่อยลงให้ใคร ชอบทำงานใหญ่หวังผลให้คนมายกย่องตนเอง
จันทร์คือฝ่ายลบหรือเพศหญิงธาตุน้ำ มักอ่อนไหวง่าย เจ้าอารมณ์ ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนอื่นง่าย มักเพ้อฝัน เรื่องจันทร์เป็นเพศหญิงและฝ่ายลบนี้เป็นที่เข้าใจกันดีอยุ่แล้ว
อังคารคือฝ่ายลบหรือเพศหญิงธาตุน้ำ ข้อนี้จะจัดแย้งกับข้อมูลทางโหราศาสตร์ไทยดั้งเดิม เพราะเราเข้าใจว่าเป็นเพศชาย ทหารเป็นเพศชายมาแต่เริ่มศึกษาโหราศาาสตร์ไทย แต่เมื่อศึกษาลักษณะของอังคารอย่างละเอียด จะเห็นว่าอังคารคือ อารมณ์ ฉุนเฉียว เจ้าโทสะ ชอบทะเลาะวิวาท ล้วนเป็นลักษณะ การหลวมตัวปล่อยใจตามอารมณ์ทั้งนั้น อังคารแสดงอิทธิพลถึงความไม่ตระหนี่ ยอมทุ่มเทสิ่งทุกอย่างเท่าไหร่ไม่ว่า ขอสิ่งนั้นสมความต้องการของตนเองเท่านั้น ในแระเด็นนี้จึงพิจารณาว่าอังคารแสดงอารมณ์หรือความงอนจัดอันเป็นลักษณะของผู้หญิง นอกจากนี้อังคารคือการสงครามที่ห้ำหั่นกันทำลายมนุษย์ล้มตายและทรัพย์สินต่างๆให้ย่อยยับ จากอังคารที่เป้นฝ่ายลบ อังคารจึงเป็นตัวแทนของเพศหญิง
พุธเป็นดาวเคราะห์ฝ่ายบวกธาตุดิน พุธคือความเจริญเติบดตของพืชบนโลก บุคคลในอิทธิพลของพุธมักสมบูรณ์และจมูกโด่ง มักชอบสะสม อยากได้สมบัติของผู้อื่น จนมักกล่าวกันว่า พุธคือตัวโลภ ถ้าพุธเสียมักมือไวหรือขี้ขโมยหรือชอบโกง ทั้งนี้ก็ด้วยอิทธิพลบวก เมื่่อมีธรรมชาติฝ่ายบวกก็ต้องการเพิ่มพูนมิใช่เสียไป ดังนั้นถ้าพุธในชะตาดีก็จะมีปฏิภาณไวมีสมองควบคุมสติดี มักยับยั้งชั่งใจ
พฤหัสบดีเป็นดาวเคราะห์อันหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เป็นธาตุไฟ ย่อมเป็นฝ่ายบวกโดยเนื้อหา พฤหัสบดีย่อมส่งเสริมโชคลาภ ความมั่นคง แก่สรรพสิ่ง ทั้งหลาย ดาวเคราะห์นี้จึงเป็นเพศชาย
ศุกร์ คือดาวโลกียะ ศิลป ความรัก การทุ่มตน หลงใหลในสิ่งอื่นจนหมดสิ้นไม่คำนึงถึงตัวเอง มีแต่เปลืองแรงใจฝ่ายเดียว เป็นดาวธาตุลมและเป็น ฝ่ายลบจริงอยู่ดาวศุกร์เป็นดาวหมายถึงลาภผล แต่ก็เป็นตัวแทนของความฟุ้งเฟ้อ ความรื่นเริงบันเทิงใจไม่ค่อยเสียดมเสียดายเท่าใดนัก ศุกร์หมายถึงสตรีเป็นเพศหญิง
เสาร์ เป็นดาวตระหนี่ เหนียวแน่น เป้ฯเพศชายเป็นฝ่ายบวก ซึ่ง เข้าลักษณะความหมายแจ่มแจ้งดีแล้ว บุคคลในอิทธิพลของเสาร์มักชอบสะสม มีที่ดินมี อสังหาริมทรัพย์ มักทุกข์ใจเพราะเหตุนี้ นอกจากนี้ยังมีความจู้จี้ เจ้าระเบียบขี้หึง ไม่อยากให้สิ่งเป็นที่รักต้องฟลักพรากจากไปอีกด้วย
มฤตยู เป็นดาวธาตุลมเพศหญิง บ่งถึงจินตนาการฟุ้งฝันเช่นเดียวกับดาวศุกร์ บุคคลมฤตยูมักเป็นนักเสี่ยงโชค ทุ่มเทจนหมดตนเพื่อหวังผลอันลมๆแล้งๆซึ่งเป็นการเสี่ยงอันฉกรรจ์ที่เดียว ดาวมฤตยูส่งผลให้ค้นคว้าแสวงหาสิ่งแปลกๆใหม่ได้มาแล้วก็ครอบครองไม่นาน สลัดทิ้งไปหาใหม่มาอีกเรื่อยๆไม่เก็บงำสะสม นับเป็นดาวฝ่ายลบโดยแท้
เนปจูนเป็นดาวบาปเคราะห์ ฝ่ายลบเพศหญิงเป็นธาตุน้ำ ดาวเนปจูนเป็นเจ้าสมุทรเป็นที่รู้กันอยู่แล้ว บุคคลเนปจูนมักยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ตนเด่นในสังคม ชอบในการสมาคม การโฆษณา ใจกว้าง เป็นแม่น้ำ ไม่คำนึงถึงฐานะปัจจุบันของตน มักล่องลอยไปอยู่ในอุดมคติ อาจเหยียบหัวคนอื่นขึ้นไปสู่ความยิ่งใหญ่ตามแบบดาวเนปจูนรวมทั้งเป็นดาวของลัทธิสังคมนิยม
พลูโต เป็นดาวบาปเคราะห์ธาตุไฟ ฝ่ายบวก ไม่มีดาวเคราะห์ใดจะแสดงการสะสมอันยิ่งใหญ่มากกว่าพลูโต ทั้งนักสะสม นักแลงของกเก่า นักเล่นแร่แปรธาตุ เหล่านี้มักอยู่ภายใต้อิทธิพลของดาวพลูโต นอกจากนี้จะเป็นผู้ที่ชอบแสวงหาสิ่งต่างๆ ความรู้แปลกๆสนใจเรื่องลี้ลับ โหราศาสตร์ ต้องการเพิ่มพูนความรู้ของตนอยู่เสมอไม่อยู่นิ่ง เป็นนักค้นคว้าที่ไม่ปล่อยว่าง แต่จะค้นจนถึงแก่นและยึดถือสิ่งเหล่านั้นเป็นสรณะผิดกับดาวมฤตยูซึ่งเปลี่ยนง่าย
ราหู ไม่ใช่ดาวแต่นำมาใช้แทนดาวเป็นเกษตรราศีพฤษภ ธาตุดินฝ่ายบวก ราหูคือการลุ่มหลงคลั่งไคล้ การมัวเมายึดถือในอุปทานของตนเอง บุคคลที่มีราหูจึงมักสะสมอุปทานและใคร่จะไขว่คว้าอุปทานของตนเองให้สมปรารถนา ดื้อดึงไม่ค่อยฟังใครทำตามอำเภอใจของตนเอง ราหูเป็นมิตรกับเสาร์ก็ด้วยมีธาตุแท้แห่งการลุ่มหลงเหมือนกัน ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเสียสละเพื่อใคร เว้นแต่จะแสดงความเป็นฮีโร่ โดยมักจะต้องการให้ผู้อื่นเห็นความสำคัญของตน
ภายหลังเมื่อมีการค้นพบดาวแบคคัส อ่านเรื่อง ดาวทรานสพลูโต Transpluto :แบคคัสหรือดาวโสม(Bacchus) ได้ที่ https://zodietcwise.blogspot.com/2023/05/transpluto-bacchus.html จึงนำแบคคัสมาใช้เป็นเกษตรและตั้งชื่อตามคุณลักษณะของเทพเจ้าองค์นี้ เพราะแบคคัสคือความสมบูรณ์ การได้มา การกิน พืชพันธุ์ธัญญาหาร เป็นตัวแทนภพที่สอง โดยให้ราหูไปเป็นเกษตรคู่กับเกตุ ๙ ในราศีมิถุนซึ่งเป็นราศีคนคู่ และเป็นเจ้าเรือนสหัชชะของลัคนาโลกธรรมจึงเหมาะ เพราะเมื่อมีเพื่อนฝูง ญาติมิตรสังคม มักจะมีการพบปะ สังสรร จัดงานเลี้ยงเฮฮาปาร์ตี้จัดกิจกรรมต่างๆ มีโอกาสเป็นบ่อเกิดความลุ่มหลงมัวเมาตามลักษณะของราหูและเกตุ ทั้งสิ้น โดยที่ราหูจะมัวเมาไปในเรื่องทางโลก ส่วนเกตุมักจะลุ่มหลงมัวเมาไปในเรื่องสิ่งแปลกใหม่ เทคโนโลยีใหม่ๆของล้ำยุคล้ำสมัยหรือไม่ก็ของเก่าของโบราณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณ หรือเคร่งศาสนา หลงผิด หรือยึดติดในคำสอนผิดๆ
เกตุ ธาตุลม ฝ่ายลบ ในบางตำราว่าเกตุแสดงสภาพหดตัวมิใช่ขยายออก มักบ่งบอกถึงความเล็ก ความผิดปกติ พิกล เมื่อเกตุไปอยู่กับอะไรมักทำให้สิ่งนั้นลดคุณค่าลงครึ่งหนึ่งเสมอ
เมื่อนำมาจับเป็นคู่ๆ คู่มิตร คู่ศัตรูและคู่เป็นกลาง ของดาวจึงเป็นดังนี้คือ
ธาตุไฟ คู่มิตร ๑,๕ คู่ขัดแย้ง ๑,พลูโต คู่เป็นกลาง ๕,พลูโต
ธาตุดิน คู่มิตร ๗.๕ คู่ขัดแย้ง ๔,๘ คู่เป็น กลาง ๔,๗
ธาตุลม คู่มิตร ๐,๖ คู่ขัดแย้ง ๖,๙ คู่เป็นกลาง ๐,๙
ธาตุน้ำ คู่มิตร ๒,๓ คู่ขัดแย้ง ๓,เนปจูน คู่เป็นกลาง ๒,เนปจูน
สรุปสำหรับดาวบวก-ลบ ที่เป็นคู่ขัดแย้งอย่างมากเป็นคู่ๆ เนื่องจากที่ตั้งเป็นมุมฉากได้ดังนี้คือ
ดาวอาทิตย์ ๑ (บวก) กับ ดาวอังคาร ๓ (ลบ)
ดาวเสาร์ ๗ (บวก) กับ ดาวศุกร์ ๖ (ลบ)
ดาวพฤหัสบดี ๕ (บวก) กับ ดาวเนปจูน (ลบ)
ดาวพุธ๔ ๖บวก) กับ ดาวเกตุ ๙(ลบ)
ดาวราหู๘ (บวก) กับ ดาวมฤตยู ๐ (ลบ)
ดาวพลูโต(บวก) กับ ดาวจันทร์๒ (ลบ)
รูปตอนสอยดาวในงานกาชาดค่ะ นอกจากนี้ช่วงใกล้วันเทศกาล มีงานรื่นเริงแล้วขอพูดและ นึกถึงการสนุกสนานแบบชาวไทยคือการรำวง ซึ่งเรียกเต็มๆว่ารำวงมาตรฐานนั้น ทางกรมศิลปากรและกรมประชาสัมพันธ์ได้ปรับปรุงขึ้นในปี๒๔๘๗ ตามที่รัฐบาลสมัยนั้นได้มอบหมายให้ดำเนินการ โดยได้จัดทำขึ้นทั้งหมดจำนวน๑๐เพลง ดัดแปลงจากการรำโทนในอดีต หนึ่งในเพลงนั้นคือเพลงงามแสงเดือนที่ได้นำมาลงบางส่วนไว้ค่ะ
" งามแสงเดือนมาเยือนส่องหล้า งามไปหน้าเมื่ออยู่วงรำ เราเล่นกันเพื่อสนุก เปลื้องทุกช์วายระกำ ขอให้เล่นฟ้อนรำเพื่อสามัคคีเอย ชาวไทยเจ้าเอ๋ย ขออย่าละเลยช่วยกันทำหน้าที่ การที่เราได้เล่นสนุกสบายอย่างนี้ เพราะชาติเราได้เสรีมีเอกราชสมบูรณ์"
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น