การโคจรของดาวพุธ๔ กับสำนวนไทย
สำนวนไทยที่เกี่ยวข้องกับดาวพุธ๔ คือการพูดและการฟังนั้นมีหลายหลากให้พิจารณานำไปใช้ค่ะเช่น
-ฟังหูไว้หู หรือ พกหินดีกว่าพกนุ่น คือรับฟังไว้แต่ไม่ได้เชื่อทั้งหมด ต้องนำมาพิจารณาว่าสิ่งที่ได้ยินมานั้นเชื่อถือได้หรือไม่มากน้อยเพียงใด
- ปากหวานก้นเปรี้ยว หรือ ปากปราศัยน้ำใจเชือดคอ หรือปากไม่ตรงกับใจหรือปากว่าตาขยิบ หมายความว่าให้ระวังคนที่พูดอย่างหนึ่งแต่ในใจอาจจะคิดอีกอย่างหนึ่ง
- ปลาหมอตายเพราะปาก หรือ พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง หมายถึง การเตือนให้ระมัดระวังคำพูด หากพิจารณาแล้วว่าไม่สมควรพูดไม่ได้ประโยชน์ก็นิ่งเสียดีกว่า
-เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หรือสอนหนังสือสังฆราช หรือสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ หมายถึงให้วิเคราะห์คนฟัง ไม่เที่ยวไปอวดดีสอนคนที่รู้ดีกว่า
-สีซอให้ควายฟัง หรือตักน้ำรดหัวตอหรือเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา หมายถึง การเปรียบเทียบคนที่ไม่รู้จักฟังหรือฟังอะไรเข้าใจยาก ถึงจะพูดอะไรให้ฟังก็เสียเวลาเปล่า
- ฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด หมายถึง การฟังอะไรไม่เข้าใจแล้วก็คิดเดาเอาเองผิดๆ
ดาวพุธ๔ นั้นเป็นที่ รู้กันว่า คือเทพของการสื่อสาร เจ้าแห่งวาจาและการค้าขาย
เป็นคนมีนิสัยอ่อนโยน หรืออ่อนหวาน การขนขวายหาความรู้จากการศึกษาด้วยตนเอง จากการสังเกต จากตำรา การเรียน
กรณีเข้าคู่กับดาวอาทิตย์จะได้คู่วิชาการ นอกจากนี้พุธมักคล้อยตามดาวที่มาผสมเพราะความอ่อนของน้ำซึ่งผสมกับอะไรก็ได้ เช่น ถ้ามีจันทร์ผสมก็อ่อนหวานนุ่มนวลน่ารัก ถ้ามีศุกร์ผสมก็เป็นความคลั่งไคล้ในความรัก,ความต้องการ เช่นความชอบทางการกิน,ความชอบทางศิลปะ และอื่นๆ
คนที่มีดาวพุธ ๔ เป็นตนุเศษ เกร็ดทำนายคือ เป็นคนอ่อนโยน มีวาทะศิลปอันนิ่มนวล เจรจาเป็นที่สนใจของคน บางคนร้องเพลงเพราะ บางคนตลกเก่ง เจรจาอ่อนหวาน ไม่โกรธใครง่ายๆ ชอบแต่เรื่องสนุก บางคราวสามารถพูดเรื่องไม่ดีให้เป็นดีได้ อารมณ์เป็นคนครึ้มๆสนุกสนาน ชอบยั่วคนเล่น แต่ใจนั้นยุติธรรมนัก ในใจเป็นคนรักการทำบุญสุนทาน เชื่ออะไรง่าย สอนง่ายหาก
พระพุธเป็นเทวดานพเคราะห์ประเภทศุุภเคราะห์ ให้ผลในทางอ่อนโยนไพเราะ นั่นคือ ผู้ใดเกิดวันพุธ หรือมีพระพุธสถิตร่วมกับลัคนา มักชอบพูดชอบเจรจา มีวาทศิลป์ ฉลาดในการพูด สุขุมรอบคอบ แต่ตื่นกลัวง่าย ตามนิทานชาติเวร พระพุธเป็นมิตรกับพระจันทร์ และเป็นศัตรูกับพระราหู
สำหรับความหมายในแง่ของ สัตว์ พระพุธเป็นตัวแทนของราชสีห์,ช้าง,ม้า,และนก
การโคจรของดาวพุธ ๔
ดาวพุธ๔ เป็นดาวเคราะห์ที่เล็กที่สุดในระบบสุริยะ ใช้เวลาโคจรรอบดวงอาทิตย์ ๘๗.๙๖๙ วัน ดาวพุธมักปรากฏใกล้ หรืออยู่ภายใต้แสงจ้าของดวงอาทิตย์ทำให้สังเกตเห็นได้ยากที่สุด
เรื่องของพุธดับนั้น มีอยู่หลายตำรา บางตำราว่า ดับเมื่ออยู่หน้า - หลังดาวอาทิตย์ ๑๔ องศา (ถ้าพุธพักร์ คืออยู่ใกล้โลก) จะดับเมื่ออยู่ หน้า - หลังดาวอาทิตย์ ๑๒ องศา หรือพุธกุมกับดาวคู่ศัตรูทางทักษาเช่นราหู หรือ พุธเป็นเจ้าเรือน ทุสถานภพเอง หรือพุธเป็นพินทุบาทว์ คุณภาพของพุธจะเปลี่ยนแปลงไป กรณีตรวจดูคุณภาพทางนวางค์จักรแล้วไม่เข้มแข็ง และหรือดาวพฤหัสบดีไม่ค่อยส่งกระแสมาช่วย ทำให้พุธเรรวนง่าย มีผลต่อการคิดการตัดสินใจเพราะดาวสมองนั้นมีมิจฉาทิฐิ
บางตำราว่า พุธที่อยู่ใกล้อาทิตย์ไม่เกิน ๑๖ องศา จะถูกอิทธิพลของดาวอาทิตย์กลบเรียกว่าพุธดับจะตกอยู่ระหว่างวันแรม ๑๔-๑๕ค่ำของแต่ละเดือน ที่อาทิตย์จะโคจรไปทับพุธ
สำหรับตำราของอาจารย์ เทพ สาริกบุตร นั้น ดาวพุธหากโคจรปกติเข้าร่วมกับอาทิตย์ เริ่มแต่มีระยะเชิงมุมเกือบจะถึงอาทิตย์ ๕ องศา เป็นระยะที่นำมาพิจารณา เรื่องพุธดับซึ่งต้องพิจารณาว่าอยู่ข้างหน้าหรือหลังดาวอาทิตย์ดูจากองศา ยิ่งหากเข้าร่วมกันโดยทับถึงองศากันสนิทเป็นการเข้าสุ่จุดดับเหมือนดาวจันทร์ที่เข้าจุดอมาวสี ผู้นั้นมักจะสมองมึนค่อนข้างโง่ ( ยกเว้นกรณีแต่หากเป็นวิถีพักร คือพุธถอยหลังมามีระยะเชิงมุมประชิดกับอาทิตย์ ถือเสมือนว่าพุธเข้าใกล้โลกมาก )
กรณีพุธอยู่หน้าดาวอาทิตย์ ก็ต้อง พิจารณา ว่าพุธพักรองศาหรือไม่ พุธที่พักรองศา ก่อนเข้ามาร่วมอาทิตย์ โดยมีระยะเชิงมุมเข้าประชิดกันเริ่มแต่ระยะห่างจากอาทิตย์ในระยะเชิงมุม ๕ องศาแล้วพักรเรื่อยเข้าไปจนประชิดองศาอาทิตย์ เป็นพุธทีให้คุณกับเจ้าชะตา
ส่วนพุธที่มีการโคจรอยู่ข้างหลังอาทิตย์ แล้วโคจรเข้ามามีระยะเชิงมุมจะประชิดองศาอาทิตย์ เริ่มแต่มีระยะอีก ๕ องศาจะถึงองศาอาทิตย์และโคจรเรื่อยเข้าไปจนมีระยะมุมประชิดกับองศาอาทิตย์ เป็นพุธที่เข้าสู่จุดดับ พุธชนิดนี้ไม่ให้คุณกับเจ้าชะตา
ถ้าพุธมีระยะเชิงมุมห่างจากอาทิตย์ ตั้งแต่ ๖-๑๐ องศา มีสติปัญญาปานกลาง
ถ้าพุธมีระยะเชิงมุมห่างจากอาทิตย์ ตั้งแต่ ๑๑-๒๐ องศา มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
ถ้าพุธมีระยะเชิงมุมห่างจากอาทิตย์ ๒๑-๒๘ องศา ผู้นั้นมีสติปัญญาเฉลียวฉลาดยิ่ง
สำหรับเรื่อง การมีวิถีโคจรวิกลคติ ในลักษณะพักร คำอธิบายความหมายคือ การที่ดาวเคราะห์มีองศาลดลงจากการโคจรปกติ บางครั้งลดลงจนเปลี่ยนราศี แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ได้มีดาวเดินถอยหลัง แต่เป็นเพราะมุมมองหรือ การที่ดาวนั้น เคลื่อนที่ไปอยู่ในด้านกว้างของวงโคจรของระบบสุริยะจักรวาลไกลออกไปมาก โลกเลยโคจรเร็วกว่าเสมือนรถเข้าโค้งวงใน ทำให้รถที่อยู่วงนอกดูไกลออกไป เมื่อสังเกตุ จากบนพื้นโลก จะเห็นดาวนั้นโคจรช้าลงเรื่อยๆ "จนมีการโคจรถอยหลัง หรือพักรองศา"
สำหรับดาวพุธพักรนั้นมีลักษณะ การที่ดาวเคลื่อนที่แล้วทื้งระยะห่างจากดวงอาทิตย์มากขึ้น เพราะเมื่อดาวพุธถอยห่างจากดวงอาทิตย์ ดาวเคราะห์นั้นจะเสียกำลังดึงดูดจากดาวอาทิตย์ไปทีละเล็กทีละน้อยเพื่อให้ได้กำลังนั้นคืนมา ดาวจึงพักรหรือจะมองว่าเมื่อดาวนั้นพักร จะทำให้พลังงานของดาวนั้นถูกจำกัดให้สะดุดลง ก็ได้ ในมุมของโหราศาสตร์ถือเป็นปัจจัย ที่กระทบกับ ดาวเคราะห์ที่สัมพันธ์กัน ราศีที่ครองอยู่ และเรือนภพที่ทำหน้าที่อยู่ โดยผลกระทบจะแตกต่างกันไปตามลักษณาการของดาวเคราะห์นั้น เมื่อดาวเคราะห์นั้นกลับมาโคจรปกติ พลังงานของดาวนั้นจะสูงขึ้นกลับเป็นภาวะปกติ
พุธโคจรย้อนวิถีในราศีสิงห์
พักร ๑๑ สิงหาคม -๓๐ สิงหาคม เดินย้อนหรือถอยหลัง
การพักร จะมีอิทธิพลกับลักษณาการของพุธในแง่ การสื่อสารผิดพลาด(ข้อมูลหาย, ข้อความผิดพลาด,อุปกรณ์สื่อสารหรืออินเตอร์เน็ตล่ม,เอกสาร-สัญญาไม่ครบผิดพลาด,ข่าวลวงข่าวเท็จ),การเดินทาง-การจราจรล่าช้า,หยุดไปรวมทั้ง การตัดสินใจผิดพลาด,เจ็บปากหรือเจ็บมือ-แขน ได้ค่ะ
ต้องสังเกตุดูเอา ค่ะ ว่าจะเป็นเรื่องใด ที่เกี่ยวกับแต่ละบุุคคล บางทีอาจจะไม่เกิดเรื่องใหญ่มากเลย และ ขึ้นกับการรับมือของบุคคลนั้นๆ ค่ะ
💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💙💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💗💚💚💚💛💛💜
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น