ดวงเมืองไทย รอบปี ๒๕๖๖-๒๕๖๗
วันเกิดหรือวันสถาปนาเมืองคือวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๓๒๕ ดังนั้นในปีนี้วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๖ จนถึงพ.ศ.๒๕๖๗ กรุงเทพหรือกรุงรัตนโกสินทร์ นั้น มีอายุ ๒๔๑ปี ย่าง ๒๔๒ ปี
ตำราว่าไว้ค่ะ โดยปกตินั้นในทักษากำเนิดไม่มีการให้ ใช้วันพุธกลางคืน ใช้แต่พุธกลางวันเพราะมิฉะนั้นเจ้าชะตาจะมีดาวพฤหัสบดีเป็นกาลกิณีกำเนิด
จะนำมาใช้คำนวณหากรณีทักษาจรเท่านั้น ดวงเมืองจึงมีการเปลี่ยนแปลง อันเนื่องจากการจรตามอายุย่าง ดังกลอนที่ว่า
ราหูทิศพายัพ จิตแค้นคับวุ่นวาย บ่สบายพลัดมิตร ถือเอาผิดเป็นชอบ ศัตรูตอบทดแทน
จึงนำภูมิทักษาของคนเกิดวันพุธกลางคืน (เกิดหลัง ๑๘.๐๐ ขึ้นไปถึง ๐๕.๕๙) มาใช้เริ่มจาก
๘ เป็น ตำแหน่ง บริวาร,๖ เป็นตำแหน่ง อายุ,
๑ เป็นตำแหน่งเดช,
๒ เป็นตำแหน่งศรี ,
๓ เป็นตำแหน่งมูละ,
๓ เป็นตำแหน่งมูละ,
๔ เป็นตำแหน่ง อุตสาหะ,
๗ เป็นตำแหน่ง มนตรี
และ ๕ เป็นตำแหน่งกาลกิณี
ในรูปไม่ได้ใส่ทักษาเดิมนะคะ เพราะ คนที่ศึกษาด้านโหราศาสตร์หรืออ่านบทความดวงเมือง มักจะทราบอยู่แล้วว่า ดวงเมืองนั้นมีดาวอาทิตย์เป็นวันเกิด ดังนั้น จึงเพียงแต่ใส่ ๑ + ทำเครื่องหมายไว้ค่ะ แล้วก็ดาวอาทิตย์ โคจรเข้าราศีเมษเมื่อ ๑๔เม.ย. ด้วยค่ะ (ไม่ได้วาดในภาพ)
บริวาร จะเปลี่ยนจาก ๑ (ดวงเมืองตั้งวันอาทิตย์) กลายเป็น ๘ ( ทำงานว่องไว ฉาบฉวย พิจารณาจากดาวราหู จึงทำได้ทุกทางทั้งทุจริตและสุจริต หรือ ปะปนกัน)
อายุ จะเปลี่ยนจาก ๒ กลายเป็น ๖ (ไม่ค่อยกระปรี้กระเปร่า เป็นสไตล์ศิลปิน มีความรู้ก็เหมือนไม่มี มักเกรงใจคน โรคเกี่ยวกับระบบน้ำเหลือง แผลฝี ผิวหนัง โรคหนอง และโรคริดสีดวง) จะดีถ้ามีดาวศรีมากุม
เดช จะเปลี่ยนจาก ๓ กลายเป็น ๑ (ทำงานขยันว่องไว มีความเฉลียวฉลาดในการทำงานมีปฏิภาณดีเป็นที่ไว้วางใจของผู้ใหญ่ รู้งานมาก วิชาการเด่นเป็นที่เชื่อถือ ถือยศศักดิ์ ชอบโอ่อามีตำแหน่งสูงหน้าที่สูง)
ศรี จะเปลี่ยนจาก ๔ กลายเป็น ๒ (มีความสมบูรณ์ ทำงานปราณีต มีดวงจิตที่แจ่มใส ได้ผู้อุปการะ มีผู้เกื้อกูล มีชื่อเสียงในวิจิตรศิลป์ )
มูละ จะเปลี่ยนจาก ๗ กลายเป็น ๓ ( เป็นคนขี้ระแวง ชอบหาเรื่องไร้สาระ จะโกรธเกลียดโดยไร้เหตุผล รักชอบใครไม่นานก็เบื่อ มีนิสัยชอบกล่าวเสียดเสียผู้อื่น ขาดความเฉลียวใจ)
อุตสาหะ จะเปลี่ยนจาก ๕ กลายเป็น ๔ ( รู้จักการบริหารทวิธีการจัดระเบียบ มีความสนใจในวิชาการปกครอง มีเชาว์ในการปรับปรุงแผนการ ทำหน้าที่การงานดีไม่ก้าวก่าย)
มนตรี จะเปลี่ยนจาก ๘ กลายเป็น ๗ ( ได้รับการสนับสนุนมุ่งมั่น ซื่อสัตย์ หาเหตุผลประกอบ ดูน่าไว้วางใจ คนที่สูงวัยแก่ประสบการณ์ มีความพากเพียร หัวโบราณหรือมีระบบระเบียบ )
กาลกิณี จะเปลี่ยนจาก ๖ กลายเป็น ๕ ( ทำนองเกณฑ์อุบาทว์ การรับไดัเคราะห์กรรม, ขาดสติปัญญา, พิจารณาคุณโทษ หรือฝ่าฝีนกฎหมาย,ปราศจากศีลธรรม, จองเวรจองกรรม )
สำหรับดาวอาทิตย์ ๑ ปุตตะ เองปีนี้กลายเป็นเดช,
ดาวศุกร์ ๖ เป็นเจ้าเรือนปัตนิและกดุมพะกลายเป็นอายุทางทักษาจร
ดาวอังคาร ๓ และเรือนตนุและมรณะเป็นมูละ,
ดาวราหู๘ เรือนกุมภ์ ลาภะ กลายเป็นดาวบริวาร
ส่วนดาวพุธ ๔ ที่เป็น มนตรีจรปีที่แล้วกลายมาเป็น ดาวอุตสาหะ รู้จักบริหาร จัดระเบียบมีความสนใจในวิชาการปกครอง มีเชาว์ในการปรับปรุงแผนการณ์ทำหน้าที่การงานที่ดีไม่ก้าวก่าย
ส่วนปีนี้ดาวพฤหัสบดี ๕ ได้ตำแหน่งเป็น กาลิกิณีจร จากตำแหน่งปีที่แล้วเป็นดาวบริวารจร เข้าทำนองเกณฑ์ฆาฏจรปัสสวะ ชีโว : กาลกิณีจะเป็นรูปของ อุปสรรค,อริ, รายจ่าย,ความชั่วร้าย เช่นตามจองเวรจองกรรม การฝ่าฝืนกฏหมาย การรับไดัเคราะห์กรรมเก่า ต้องใช้ปัญญาพิจารณาคุณ-โทษ สำหรับผลจะดี-ร้าย ต้องพิจารณาความคิดตั้งต้น และการกระทำเป็นหลักค่ะ
ภูมิทักษาจร ดาว๗ จร และเรือนกัมมะ ดวงเมืองปีนี้เป็นมนตรีจร ความหมายคือ ได้รับการสนับสนุนมุ่งมั่น ซื่อสัตย์ หาเหตุผลประกอบ ดูน่าไว้วางใจ เปลี่ยนจากปีที่แล้วเสาร์จร เป็นกาลกิณีจร พึงระมัดระวัง กลุ่มคนที่ค่อนข้างเจ้าคิดเจ้าแค้น หรือ มองทุกคนเป็นศัตรู (อ่านตรง กาลกิณีเปลี่ยนจาก๗ เป็น ๕) แต่ปีนี้ ดาวพฤหัสบดีเป็นกาลีจร และตำแหน่งราชาโชค คนแต่ละคนต้องใช้สติพิจารณา เหตุผลในการทำแต่ละเรื่องให้ดี อาจจะมี ศุภะ(ผู้อุปการะคุณ,ผู้มีพระคุณ,ที่พึ่งพิง) ลดน้อยลง นอกจากหมั่นทำบุญบ่อยๆ อุทิศบุญกุศลให้ ญาติล่วงลับและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือหัดมีเมตตา-กรุณากับคนอื่นๆรอบตัว หรือฝึกให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนให้ คิดพิจารณาตัดสินใจเองลงมือทำเอง มากๆ
คนใดมีทักษาจรลักษณะเช่นดวงเมือง ก็ควรสังวรณ์การกระทำ หาก เป็นกรรมดี จะให้ผลดี ทำเรื่องไม่ดี ก็จะได้รับผลไม่ถูกใจหรือเสียหายได้ในที่สุด ให้พิจารณาเรื่องการให้อภัยตนเองหรือผู้อื่นและ การขอโทษผู้อื่นหากทำผิดพลาด เพื่อลดโทษลดกรรมลง
ส่วนเรื่องแรงเอื้อมนั้น ของดาวใหญ่ มีการส่งไปยังดาวเคราะห์ต่างๆ (ไม่ได้วาดเส้นในรูปนะคะ จะดูเยอะเกินไป)
ดาวพฤหัสบดีสถิตย์เรือนตนุลัคน์ นั้นส่งแรงเอื้อมไป ยังเรือนปุตตะในราศีสิงห์ ดาวอาทิตย์๑ พร้อมกับ เรือนศุภะ ราศีธนู ดาว๕ เดิม
ราหูขณะที่อยู่ราศีเมษ ยังส่งกระแสแรงเอื้อมที่ ๔ และ ๑๐ ไปที่ราศีมังกร และ เรือนพันธุราศีกรกฎ ของดวงเมือง เมื่อถึงวันที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๖ จะย้ายเข้าราศีมีน ร่วมกับดาวราหู,พุธและศุกร์เดิม ส่งกระแสไปร่วมกับราศีธนู(ศุภะ)และราศี มิถุน (สหัชชะ)
และเพราะศุกร์เป็นดาวอายุ จึงพึงระวัง สิ่งที่เกี่ยวข้องกับศุกร์คือ
-โรคที่เกี่ยวข้อง คือ ความเจ็บป่วยมาจากการพักผ่อนน้อย มีหลายโรคค่ะ, เกี่ยวกับคอหอย หรือเอว ไตหรือ มดลูกพิการ หรือปวดบั้นเอว หรือกามโรค หรือผิวพรรณ
แรงเอื้อมจากดาวเสาร์๗ : ดาวเสาร์๗ นั้นย้ายเข้าในราศีกุมภ์และ ส่งกำลังได้เต็มที่เมื่อเป็นเกณฑ์ ๓ และเกณฑ์ ๑๐ไป ยังเรือนราศีเมษและราศีพิจิก (โดยช่วงก่อนวันครบรอบสถาปนาเมืองกรุงเทพ ทักษาจรนั้นเสาร์เป็นกาลกิณีจร)
ส่วนอังคาร ๓ นั้นเดินหน้า ปกติมีเสริดช่วงเข้าราศีพิจิกและธนู แรงเอื้อม จะเปลี่ยนแรงเอื้อม(ราศีที่๔และ๘) ตามราศีที่เข้าไปสถิตย์ เช่นขณะนี้สถิตย์ราศีมิถุน มีแรงเอื้อมไปที่ราศีกันย์(อริ)และมังกร (กัมมะ)
อังคารโคจร ย้าย ราศี ดังนี้คือ
๑.เข้าราศีมิถุน ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๖ ๒๐.๐๖น.
๒.เข้าราศีกรกฎ ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ๐๔.๒๙ น.
๓. เข้าราศีสิงห์ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๖ ๑๒.๐๒น.
๔. เข้าราศี กันย์ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๖ ๐๒.๕๙น.
๕.เข้า ราศีตลย์ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ ๐๕.๒๑น.
๖.เข้า ราศีพิจิก ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ๑๔.๑๕ น.เสริด
๗. เข้าราศีธนู ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๖ ๐๔.๐๙น. เสริด
ดาวเกตุนั้น ย้ายราศี
๑.จรเข้าราศีสิงห์ ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม เวลา ๐๒.๔๖น.
๒.จรเข้าราศีกรกฎในวันที่ ๔ กรกฎาคม เวลา ๑๖.๔๖น.
๓.จรเข้าราศีมิถุน ในวันที่ ๙ กันยายน เวลา ๐๖.๔๖น.
๔.จรเข้าราศีพฤษภ ในวันที่ ๔ พฤศจิกายน เวลา ๒๐.๔๖น.
ฝากพุทธสุภาษิตไว้ค่ะ
" อัตตาหิ อัตตโน นาโถ" ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ปัญญาของตนเองที่จะเป็นที่พึ่งไม่ใช่ปัญญาของคนอื่น การใช้ปัญญาตนเองให้บ่อยๆจะเชื่อมโยงไปสู่การฝึกปฏิบัติเข้าถึงนิพพาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น