การผสมภพผสมดาว
เรื่องของการอ่านดวงชะตานั้นต้องอาศันความเข้าใจในหลายเรื่องประกอบกัน เพราะดวงหนึ่งดวงจะประกอบไปด้วยเรื่องตามด้านล่างเหล่านี้ค่ะ
๑.ราศี อ่านได้จากเรื่อง ภาคของราศี https://zodietcwise.blogspot.com/2019/03/blog-post_11.html , เกษตรสองเรือน https://zodietcwise.blogspot.com/2019/07/blog-post_0.html
๒.ธาตุ อ่านได้จากเรื่อง #ธาตุสี่ชั้น https://zodietcwise.blogspot.com/2019/02/f-zodietcwise-lifecoach-lifestyle.html , ดาวแปรธาตุ ดาวครองธาตุ https://zodietcwise.blogspot.com/2021/08/blog-post_14.html
๓.ดาว อ่านไ้ด้จากเรื่อง #ตำแหน่งของดาวต่างๆ https://zodietcwise.blogspot.com/2022/03/blog-post_13.html
๔.ภพ อ่านได้จากเรื่อง ทวาทศภพทั้ง๑๒ในจักรราศี https://zodietcwise.blogspot.com/2020/10/zodietcwise.html
๕. ดาวผสมดาว
๖. ดาวผสมภพ
๗. ภพผสมภพ
๘. มุมสัมพันธ์ของดาว
๙. กฎเกณฑ์ในการอ่านดาวอ่านภพ
สำหรับข้อ๑-๖ มีในหลายบทความแล้ว หากสนใจลองกลับไปหาอ่านดูได้ค่ะ จะพูดเรื่องของภพผสมภพและผสมดาว ซึ่งเกี่ยวเนื่องถึงข้อ ๗ -๙ ของการอ่านดวงชะตา เป็นสำคัญ
การผสมภพ คือ เอาความหมายของภพสองภพหรือมากกว่านั้นมาผสมกันโดยมีดาวเป็นตัวเชื่อม แล้วนำความหมายมาพยากรณ์
ตัวอย่างของตำรา
๑.กดุมพะ -อริ - ปัตนิ
ลัคนาอยู่กรกฎ เมื่อมีดาว๑ เจ้าภาพเรือนกดุมพะไปอยู่ภพ อริ และดาว๕ ตามภาพ เป็นดาวอริอยู่เรือนปัตนิ ความสัมพันธ์ ทั้งสาม อ่านได้ว่า กดุมพะเรือนการเงินมีอุปสรรค ไม่ราบรื่น โดยตามไปดูจังหวะสอง คือ ดูเรือนอริดาวไปอยู่ที่ราศีมังกรภพปัตนิ ให้นำความหมายของปัตนิมาผสมเข้าอีก ว่าเพราะหุ้นส่วน
๒.ปัตนิ-ศุภะ-ปัตนิ
ลัคนาอยู่กรกฎ ภพปัตนิ มีดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนไปสถิตย์ภพ ศุภะ ให้ความหมายว่าเจริญรุ่งเรือง จึงได้การผสมกันว่า หุ้นส่วนหรือคู่ครองทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง แล้วตามไปดูภพ ศุภะ ที่ราศีมีน มีดาว๕ เป็นเกษตรเจ้าเรือนเช่นเดียวกับภพอริ การอ่านจังหวะที่สอง จึงไปดูดาว๕ในราศีมังกร สังเกตุดีๆจะเห็นว่า ดาว๗ไปสถิตย์ เรือนดาว๕ ส่วยดาว๕ ก็ไปสถิตย์ เรือนของดาว๗ เรียกว่าได้มาตรฐาน อนุเกษตร หรือเกษตรน้อยหรือ ดาวสลับเกษตร มักกล่าวว่าดีเหมือนตัวเองเป็นเกษตร โดยลักษณะสำคัญอย่างหนึ่ง ที่ควรเข้าใจให้ตรงกันคือ ดาวแสดงประสิทธิภาพตามราศีที่เข้าไปอยู่ก่อน ส่วนความดีหรือความเข้มแข็งของตำแหน่งนี้จะมาภายหลัง ไม่ใช่ช่วงวัยต้นวัยเด็กของเจ้าชะตา ดังนั้น คู่ครองหรือหุ้นส่วนที่จะทำให้เกิดความรุ่งเรืองจะช่วยเหลือให้ความมั่นคงในอนาคต
เมื่อนำมารวมกันเป็นดวงเดียว จากข้อ๑ และข้อ๒
การร่วมลงทุน(กดุมพะ) กับหุ้นส่วน (ปัตนิ) ในระยะแรก จะมีอุปสรรค (อริ)แต่ก็หุ้นส่วนหรือคู่ครอง(ปัตนิ)นั่นแหละที่ช่วยให้เกิดความมั่นคง(ศุภะ)ได้ในภายหลัง (อนุเกษตร)
การผสมดาว เอาความหมายของดาวสองดวงขึ้นไปมาผสมกันซึ่งทำให้ความหมายของดาวมีการแปรรูปออกไป ทำให้เกิดความเด่นชัดขึ้นไป
๑.ผสมความหมายของดาวต่อดาว
ในกรณีที่ดาวมาอยู่ร่วมกันในราศีเดียวกัน จะต้องมีการแทรกอิทธิพลของตัวเองลงไปในดาวที่ร่วมอาศัยอยู่ ซึ่งเรียกว่า ดาวลอย ิเป็นลักษณะคนที่อยู่ร่วมชายคาเดียวกัน อยู่กันไปนานๆ นิสัยจะซึมเข้าหากันและกัน เช่นในรูปคือ
ดาวราหูคู่กับดาวอาทิตย์ : ดาวอาทิตย์๑ นั้นนิยามที่เห็นก็คือความเด่นมีมาด,หยิ่งไว้ตัว,เป็นผู้นำมากกว่าผู้ตาม, ไม่ชอบทำตัวกระจอก,ตรงไปตรงมา,ชอบความมีระเบียบวินัย ขณะที่ราหู๘นั้น เป็นพวก รักพวกรักพ้อง,เอาไหนเอากัน,โฉ่งฉ่าง,ดีก็ได้อบายมุขก็เอา จนไปถึงกินเหล้าเมายาเล่นหวยเล่นโป
เมื่อมาร่วมราศีกันอิทธิพลจะซึมเข้าหากัน ถ่ายเทอิทธิพลเข้าไป ลองวาดภาพดูกันนะคะจะเป็นอย่างไร
ดาวจันทร์คู่กับดาวอังคาร : ดาวจันทร์๒ มีนัยยะของความอ่อนโยน,ใจบุญ,นุ่มนวล ค่อนข้างขี้ขลาด,ไม่ชอบความรุนแรง ขณะที่ดาวอังคาร๓ นั้น ให้นัยยะ กล้าแข็ง,บุ่มบ่าม,เอาไงเอากัน,ตัดสินใจเร็ว
เมื่อมาร่วมราศีกันอิทธิพลจะซึมเข้าหากัน ถ่ายเทอิทธิพลเข้าไป ลองวาดภาพดูกันนะคะจะเป็นอย่างไร
ดาวศุกร์คู่กับดาวเสาร์ : ดาวศุกร์ ๖ เป็นที่ทราบว่าเป็นดาว แห่งความสุขทางการกิน-การแต่งตัว-การฟังเพลง,มีอารมณ์ดีรื่นเริงเสมอ,ชอบศิลปะความงาม,ทำอะไรคล่องแคล่วไม่อืดอาด ขณะที่ดาวเสาร์ ๗นั้นเป็น ดาวที่ให้ะ นัยยะนักวิตกกังวลนักคิด ความมัธยัสถ์,เชื่องช้า สุขุม
เมื่อมาร่วมราศีกันอิทธิพลจะซึมเข้าหากัน ถ่ายเทอิทธิพลเข้าไป ลองวาดภาพดูกันนะคะจะเป็นอย่างไร
๒.ดาวผสมเรื่อง
การใช้ดาวผสมเข้ากับตัวเรื่องเพื่อให้เรื่องราวนั้นมีความละเอียดมากขึ้น และชัดเจนดีขึ้น เช่นดามรูป
ดาวเสาร์และศุกร์สถิตที่ราศีตุลย์ สำหรับคนลัคนามังกร
เสาร์เป็นดาวตนุลัคน์ ส่วนศุกร์เป็นเกษตรในเรือนกัมมะของตนเอง
หากจำได้จากด้านบน ดาวศุกร์๖เป็นดาวสวยงาม จึงน่าจะบอกว่าเจ้าชะตามีอาชีพที่ค่อนข้างสบายหรือเป็นศิลปินเกียวข้องกับความสุนทรีย์ต่างๆ หากแต่มีดาวเสาร์ซึ่งเป็นเจ้าภาพของความวิตกกังวล และเหน็ดเหนื่อย การตีความนั้นจึง มองได้ว่าแม้งานของเจ้าของดวง นี้น่าจะสบายและรื่นรมย์แต่ก็จะไม่สบายมากมักแก่เจ้าชะตา แต่ก็จะเป็นงานมั่นคง(เกษตร)ที่ทำให้เจ้าชะตามีเกียรติและชื่อเสียง(ุอุจจ์)
ดังนั้นดาวใดเป็นเจ้าเรือนก็จะก็จะส่งอิทธิพลให้ผู้ที่มาอาศัย
ภพใดมีดาวสถิตมากดวงความหมายของภพนั้นก็ต้องแสดงว่ามากด้วยค่ะ เช่นในภพสหัชชะ มีดาวลอยอยู่หลายดวงก็หมายถึงจะมีเพื่อนมากเป็นต้น แต่หากในภพปัตนิมีดาวมากดวง ขออย่าทายตรงๆwxว่า มีคู่รักเยอะมากนะคะ
สำหรับเรื่องมุมสัมพันธ์ของดาวนั้น ขอให้พิจารณาเรื่องของ โยคเกณฑ์, แรงเอื้อม,หรือเรื่องธาตุ เช่น #ปัตนิกับราศีบอกเพศ ส่วนกฎเกณฑ์ต่างๆ นั้นมีหลายประการที่ต้อง ทราบและท่องจำ เช่น องค์เกณฑ์ พินทุบาทว์ การหาตนุเศษ รวมไปถึงตรีวัย และทักษาคู่ธาตุ และอื่น สำหรับผู้สนใจในวิชาโหราศาสตร์ลองฝึกฝนกันค่ะ
ปิดท้ายด้วยพุทธสุภาษิต จาก นวนิยายเรื่อง หนึ่งในร้อย ของ ดอกไม้สด (หม่อมหลวง บุปผา นิมมานเหมินท์)
ททํ มิตฺ ตานิ คนฺถติ ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีไว้ได้
ททํ ปิโย โหต ราชนฺติ นํ พหู ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก คนหมู่มากย่อมคบเขา
การ "ให้"ขยายความได้ว่าความร่วมมือ,ความช่วยเหลืออย่างมีสติสมเหตุผล นั้น นำมาซึ่งไมตรีจิดของผู้คน ...... และย่อมนำมาซึ่งสังคมที่สงบสุขได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น