เวลา วารีและ จิตรับรู้ 
สามสิ่งนี้มักจะมีลักษณะหนึ่งที่คล้ายคลึงกันคือหลักของการเคลื่อนที่การไม่หยุดนิ่ง
โดยที่เวลา จะสามารถดูจาก การเคลื่อนตัวของดาวเคราะห์ประกอบกันหลัก หากจะดูง่ายๆ ก็สังเกตุจากการที่พระอาทิตย์ ขึ้นเป็นเวลากลางวัน และเมื่อเปลี่ยนเป็นตอนค่ำ พระจันทร์ก็จะ ขึ้นตอนกลางคืน แล้วแต่ว่ากี่ค่ำ จะเห็นพระจันทร์ชัดแค่ไหน อ่านเพิ่มได้ที่เรื่อง #วันเวลาทางจันทรคติ ส่วนสายน้ำก็เป็นที่ทราบกันว่ามีการเคลื่อนไหวเป็นพลวัต ขึ้นและลงตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งภายนอก ที่มนุษย์เห็นได้ หากแต่จิตใจหรือความคิดที่อยู่ภายในกายมนุษย์เองนั้น ก็ มีการเคลื่อนที่ พร้อมกับกายซึ่งประกอบด้วยธาตุต่างๆ ขณะที่จิตรับรู้อารมณ์หรือความคิดมักจะมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา หากได้รับการฝึกฝนให้อยู่ในสภาวะนิ่ง สงบและเป็นจิตภาวนา ทำให้จิตเข็มแข็งอยู่ในศีลในธรรมได้
การเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์ต่างๆ นั้นโดยเฉลี่ยต่อหนึ่งราศี (กรณีเมื่อเดินปกติ ) เคยได้นำเสนอไว้แล้วค่ะ อ่านเพิ่มได้ที่ #การโคจรของดาวตามคัมภีร์สุริยศาสตร์ https://zodietcwise.blogspot.com/2019/07/blog-post_76.html หรือดังนี้คือ
-ดาวอาทิตย์ : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๓๐ วัน
-ดาวจันทร์ : ๑ราศี ใช้เวลาประมาณ ๒.๕ วัน
-ดาวอังคาร : ๑ราศี ใช้เวลาประมาณ ๔๕วัน
-ดาวพุธ : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๓๐ วัน
-ดาวพฤหัสบดี :๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๑ปี
-ดาวศุกร์ : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๓๐ วัน
-ดาวเสาร์ : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๒.๕ปี
-ดาวราหู : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๑.๕ปี
-ดาวเกตุ : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๒เดือน
-ดาวมฤตยู: ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๗ ปี
-ดาวพลูโต : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๒๐ปีครึ่ง
-ดาวเนปจูน : ๑ ราศี ใช้เวลา ประมาณ ๑๓ ปี ๙เดือน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เรื่อง กระแสแห่งจันทร์ #Zodietcwise https://zodietcwise.blogspot.com/2020/03/zodietcwise_68.html
ดาวจันทร์ นั้น จะเห็นได้ว่า โคจรเร็วสุด ในรอบประมาณเดือนเดียวก็โคจรครบรอบจักรราศีพอดี แต่ผลจะเกิดขึ้นเล็กน้อยจนสังเกตุไม่ถนัดชัดเจนเพราะปกติก็มีดาวอื่นโคจรองศาถึงกันเป็นประจำ โดยเฉพาะดาวใหญ่ ผลของจันทร์จึงมักถูกปัดออกจากจากสถิติ แต่กระนั้นก็สถิติที่ควรนำมาทำการพิจารณา
๑.จันทร์ทับลัคนา คำทำนายกว้างๆคือการได้โชคลาภและความอิ่มหนำสำราญ โดยเฉพาะ ลักษณะ ๖ ประการด้านล่างนี้ จันทร์จะให้ลาภผิดปกติคือไม่ต้องรอองศาดาวศุภเคราะห์หรือดาวคู่มิตรถึงกัน
๑.๑ ศุภเคราะห์ อยู่ในภพที่๕ จันทร์โคจรเข้าภพที่ ๙ หรือทับลัคนาหรือเข้าร่วมในภพที่๕ เช่นกัน
๑.๒ ศุภเคราะห์ ทับลัคน์ จันทร์เข้าร่วมหรืออยู่ในมุมตรีโกณมุมใดมุมหนึ่ง
๑.๓ ศุภเคราะห์ อยู่ในภพทที่๙ จันทร์โคจรร่วมหรือทับลัคนา หรือร่วมกันในภพที่๕
๑.๔ ศุภเคราะห์อยู่ในภพที่ ๓ จันทโคจรเข้าภพที่๑๑ หรือทับลัคนา หรือร่วมกันในภพที่๓เช่นกัน
๑.๕ ศุภเคราะห์อยู่ในภพที่ ๑๑ จันทโคจรเข้าร่วม หรือทับลัคนา หรือร่วมกันในภพที่๓
๑.๖ ศุภเคราะห์เล็งลัคน์ จันทร์จรเข้าเล็งหรือเข้าทับลัคนา
แต่สลับกัน หากเป็นบาปเคราะห์ ตรึงลัคนาอยู่ในมุมตรีโกณทั้งสองคือภพที่ ๕ และภพที่ ๙ เมื่อจันทร์โคจรเข้าทับลัคนา ควรระวังเหตุ หรือมีเรื่องกระทบใจ หรือมีเรื่องยุ่งยากใจ หรือหากว่าองศาบาปเคราะห์ใหญ่ที่ตรึงใกล้ลัคนาเต็มที่ ก็ควรระวังในระยะนั้นเมื่อจันทร์เข้าทับลัคนาจะเป็นสื่อให้เกิดเหตุร้าย ขึ้นได้
จันทร์ข้างขึ้นยิ่งเมื่อเข้าทับลัคนาเมื่อใดจะมีโชคเมื่อนั้นเพราะอิทธิพลของจันทร์เพ็ญให้คุณเพิ่มขึ้นกว่าปกติเป็นสองเท่า จันทร์ข้างแรมแก่ๆเข้าทับลัคนาหรือสัมพันธ์ถึงเรื่องโชคลาภจะบางเบาลง
นอกจากนี้ ดาวจันทร์ยังมีการให้ผลตามภพต่างๆเช่น เมื่อโคจรเข้าภพดังนี้คือ
-ดาวจันทร์โคจรเข้าภพกดุมพะ กรณีมีดาวลอยครองอยู่ในเรือนชาตา มีศุภเคราะห์โคจรเข้ามุมตรีโกณในภพที่๖และ๑๐ พอจันทร์จรเข้ากดุมพะก็น่าจะได้ลาภทางการเงิน
-ดาวจันทร์โคจรเข้าเรือนการงานก็จะมีส่วนกระตุ้นให้เกิดผลอย่างมาก เมื่อดาวจันทร์มีมุมที่สัมพันธ์กับดาวเจ้าเรือนหรือดาวที่ลอยในภพนั้นๆ จะเกิดผลดีระยะนั้นเช่นกัน หรือเมื่อดาวกัมมะโคจร โดยมีศุภเคราะห์เดินนำหน้า พอจันทร์โคจรเข้าขนาบลังดาวกัมมะจรเท่านั้นก็จะส่งผลดีให้เกี่ยวกับการงานเช่นกัน
ดังนั้นความเพียรพยายามและปัจจุบันกรรมอันเกิดจากจิตที่ได้รับการฝึกฝนให้เข็มแข็ง จะเป็นองค์ประกอบเพิ่มเติมให้ สามารถดำรงชีวิตอย่างสงบสุข และหากทำต่อเนื่องก็เป็นตัวผลักดันให้ประสบความสำเร็จในชีวิต หรือ อย่างน้อยที่สุดก็แก้ไขดวงชะตาของตนเองให้ผ่านพ้นหรือลดทอนวิบากกรรมเดิมได้ จึงอย่าปล่อยให้ทั้งสามสิ่งนั้นผ่านไปตามกาละหรือธรรมชาติของการเคลื่อนที่ค่ะ ความเพียรพยายามเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติของมงคลชีวิต ๓๘ ประการค่ะ อ่านได้ที่ เรื่อง #มงคลชีวิต38ประการ หรือหาอ่านเพิ่มเติมได้ค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น