ตฤศำศกับเบญจขันธ์

 ตฤศำศกับเบญจขันธ์

ตฤศำศคือการแบ่งราศีออกเป็นห้าส่วนและมีดาวเคราะห์ครองส่วนละหนึ่งองค์ หรือเรียกว่าองค์ละหนึ่งขันธ์ก็ได้

“ตฤมศำศ” นี้ถ้าแปลตามตัวก็จะแปลว่า ๓๐ ส่วน หรือ ๓๐ องศาใน ๑ ราศี นั่นเอง เมื่อ ๑ ราศีมี ๓๐ องศาเช่นนี้ ท่านก็แบ่งราศีนี้ออกเป็นห้าส่วนและให้ดาวเคราะห์ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (ยกเว้นอาทิตย์และจันทร์ซึ่งถือเป็นดาวประธานแห่งจักรภพ) ทั้งห้าดวงเข้ามาครองสัดส่วนนั้นโดยแบ่งเป็นราศีเพศชายและเพศหญิง ดาวเคราะห์ทั้งห้านั้นมีดังนี้คือ อังคาร (๓) , เสาร์ (๗) , พฤหัสบดี (๕) , พุธ (๔) , ศุกร์ (๖)

คำว่า ขันธ์ แปลว่า กอง, หมวด, หมู่, ส่วน ในทางพุทธศาสนาหมายถึงร่างกายของมนุษย์ คือแยกร่างกายออกเป็นส่วนๆ ตามสภาพได้ ๕ ส่วน หรือ๕ ขันธ์ คือ

-รูป ได้แก่ ส่วนที่ผสมกันของธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ เช่น ผม หนัง กระดูก โลหิต เมื่อนำ ดาวเคราะห์ทั้งห้า เข้ามาแบ่งดาวพฤหัสบดีจึงเข้าครองเป็นรูปขันธ์
-เวทนา ได้แก่ ระบบประมวลความรู้สึกว่า ชอบหรือไม่ชอบ และเฉยๆ เมื่อนำดาวเคราะห์ทั้ห้าเข้ามาแบ่ง ดาวศุกร์เข้าครองเป็นเวทนาขันธ์
-สัญญา ได้แก่ จำสิ่งที่ได้รับและรู้สึกนั้นๆ เมื่อนำดาวเคราะหืทั้งห้าเข้ามาแบ่ง ดาวพุธเป็นดาวประจำสัญญาขันธ์
-สังขาร ได้แก่ ระบบคิดปรุงแต่ง แยกแยะสิ่งที่รับรู้สึกและจำได้นั้นๆ เมื่อนำดาวเคราะห์ทั้งห้าเข้ามาแบ่ง ดาวอังคาร เข้าครองประจำสังขารขันธ์
-วิญญาณ ได้แก่ ระบบรู้สิ่งนั้นๆ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อนำดาวเคราะห์ทั้งห้าเข้ามาแบ่ง ดาวเสาร์รับหน้าที่ครองวิญญาณขันธ์
ขันธ์นี้ รูปจัดเป็นรูปธรรม เวทนา,สัญญา,สังขาร,วิญญาณจัดเป็นนามธรรม เมื่อจัดขันธ์เข้าในปรมัตถธรรม
วิญญาณขันธ์ จัดเข้าในจิตเวทนาขันธ์ ,
สัญญาขันธ์ ,สังขารขันธ์ จัดเข้าในเจตสิก
รูปขันธ์ จัดเข้าในรูป
ตฤมศำศ” นี้ถ้าแปลตามตัวก็จะแปลว่า ๓๐ ส่วน หรือ ๓๐ องศาใน ๑ ราศี นั่นเอง เมื่อ ๑ ราศีมี ๓๐ องศาเช่นนี้ ท่านก็แบ่งราศีนี้ออกเป็นห้าส่วนและให้ดาวเคราะห์ที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (ยกเว้นอาทิตย์และจันทร์ซึ่งถือเป็นดาวประธานแห่งจักรภพ) ทั้งห้าดวงเข้ามาครองสัดส่วนนั้นโดยแบ่งเป็นราศีเพศชายและเพศหญิง ดาวเคราะห์ทั้งห้านั้นมีดังนี้คือ อังคาร (๓) , เสาร์ (๗) , พฤหัสบดี (๕) , พุธ (๔) , ศุกร์ (๖)
ในราศีเพศชายคือราศีเมษ, มิถุน, สิงห์, ตุลย์, ธนู, กุมภ์ นั้น ให้ดาวอังคารซึ่งเป็นตัวแทนแสดงเพศชายเป็นตัวครองแต่ต้นราศี คือองศา ๐-๕ เสาร์ครองแต่ ๕.๐๑-๑๐ พฤหัสบดีครองแต่องศา ๑๐.๐๑-๑๘ พุธครองแต่องศา๑๘.๐๑-๒๕ และศุกร์ครองแต่องศา ๒๕.๐๑-๓๐ เป็นอันจบราศี
ในราศีเพศหญิง การครองส่วน (หรือขันธ์) นี้จะกลับกันกับราศีเพศชาย คือเมื่อเป็นราศีเพศหญิงก็จะนำเอาดาวศุกร์ ซึ่งเป็นตัวแทนแสดงเพศหญิงมาเป็นตัวครองแต่ต้นราศี โดยให้ดาวเคราะห์เรียงกันมาแต่ท้ายหาต้น ศุกร์ , พุธ , พฤหัสบดี , เสาร์ , และ อังคาร โดยให้อาณาเขตการครององศาเหมือนกันทุกประการ คือพฤหัสบดี ครอง ๘ องศา พุธ ๗ องศา นอกนั้น ครอง๕ องศา เช่นเดิม
สรุปก็คือ อังคาร , เสาร์ , ศุกร์ , ครองส่วนละ ๕ องศา พฤหัสบดีครองส่วยละ ๘ องศา พุธครองส่วนละ ๗ องศา
เมื่อผูกดวงชาตาขึ้นมาแล้ว ก็ตรวจดูว่าสมผุสของลัคนาเจ้าของดวงนั้นอยู่ในขันธ์อะไร ก็จะทำให้จริตนิสัยของผู้นั้นเป็นไปตามขันธ์ดังกล่าว ตรวจดูว่าดาวประจำขันธ์นั้นมีความเข้มแข็งหรืออ่อนแอ ครองภพอะไร สัมพันธ์ดีกับลัคนาหรือดาว ดวงอย่างไร สิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อมูลในการตรวจดวงได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก บทความของ อาจารย์ เศก ดุสิต ค่ะ
"เบญจขันธ์นั้นเป็นอนัตตา (ไม่มีตัวตน),ไตรสิขา(ศีล สมาธิ ปัญญา) นั้นจะช่วยถอนความหลงติดในเบจขันธ์ "จากหนังสือคู่มือมนุษย์ ท่านพุทธทาสภิกขุ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านค่ะ Zodietcwise
บทความนี้เขียน ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๙





ความคิดเห็น