เกตุพิสดาร


ช่วงนี้ตามปฎิทินสุริยยาตร์ดาวเกตุจรเข้าราศีมิถุน ตั้งแต่๓๐ ตค ๒๕๖๔  และจะยกเข้า ราศีพฤษภ ในวันที่๒๕ ธค  ๒๕๖๔

ความพิสดารของพระเกตุคือ ในทางโหราภารตะหรือสากลถือเป็นหางของราหู คือราหูอยู่ในราศีใดและมีองศาที่เท่าใด พระเกตุต้องอยู่ตรงข้ามกับราหูและมีองศาเท่าราหูเสมอไป แต่มีโหราศาสตร์ไทยอยู่ชาติเดียวซึ่งถือว่าพระเกตุเป็นดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งซึ่งไม่ใช่หางของราหู มิอำนาจอิทธิพลของตัวเอง จึงให้คำนิยามของพระเกตุว่า "ดูอายุยืนอยู่ให้ทายเกตุ" และให้ธาตของพระเกตุไว้ว่าเป็น " วิญญาณธาตุ "  ซึ่งหมายความว่าพระเกตุอยู่ในราศีใดก็ย่อมจะบันดาลให้เกษตรเจ้าเรือนนั้นมีชีวิตหรือวิญญาณตามเกตุไปด้วย และกำหนดวงโคจรหนึ่งรอบหรือโคจรครบ๑๒ราศีเท่ากั๖๗๙ วัน หรือโคจรวันละ ๐.๕๓๐๑๙๑๕ องศา  ไว้เล่าเรื่องนี้ต่อในบทความอื่นๆค่ะ 

นอกจากนี้ดาวเกตุจะมีความพิสดาร จริงๆที่คำจำกัดความว่า "ดูอายุยืนอยู่ให้ทายเกตุ"เป็นการทายแบบกำปั้นทุบดินเกินไปค่ะ หรือทายกันบ้างก็ ว่า เมื่อเกตุอยู่ในภพใดของชะตาและภพนั้นหมายถึงอวัยวะส่วนใดของร่างกายก็จะทำให้อวัยวะส่วนนั้นยาวขึ้น เช่นกุมลัคนาก็ผมดก นำหน้าลัคนา(ภพที่๒) หนวดดก อยู่ภพที่๓ ลัคนาแขนยาว อยู่ภพที่๘ลัคนาอวัยวะเพศยาว เป็นต้น ค่ะ

เรื่องพิสดารถัดไปที่จะนำมาพูดถึงก็คือชอบคิดอยากไปต่างบ้านต่างเมือง หรือต่างประเทศ  หรือ อยากอวดความสามารถกับคนต่างชาติ  หรือ ประเด็น ที่ว่ามองเห็นบ้านตัวไม่เหมาะกับสภาพของตัว หรือชอบมีงานพัวพันกับชนต่างชาติ หรือเกิดเปลี่ยนศาสนาที่ตัวเองนับถือ  โดยจะเกิดเหตุการเมื่อดาวเกตุทำการสนับสนุนกับดาวใหญ่โคจรเข้าเรือนหรือเป็นโยคเกณฑ์ และแสดงคุณหรือโทษ  เช่นช่วงนี้ดาวพฤหัสบดี ในราศีกุมภ์นั้นส่งกระแสเป็นเกณฑ์เข้าราศีมิถุน อาจจะมีโชคลาภหรือมีโทษเป็นสองชั้น

ยิ่งการที่มีดาวมฤตยูในราศีเมษทำให้มีอิทธิพลแปลกๆเสริมเข้ามา   เรื่องการเจ็บไข้ก้อมักมีอิทธิพลเสริมขึ้น กรณีเกตุเดิมร่วมราศีกับมฤตยูหรือเล็งกันอยู่ เวลาเกตุจรเข้าทับลัคนาทับจันทร์หรือเล็งลัคนาเล็งจันทร์ มักเจ็บไข้ป่วยได้ หรือหากเป็นดวงสตรีมักจะเชื่อเรื่องลึกลับ เรื่องผี หรือไสยศาสตร์ การสะเดาะห์เคราะห์ต่างๆ  


การดำเนินชีวิตในปัจจุบันโดยเฉพาะในช่วงปลายปีนี้จนถึงปีหน้า ขอให้มีสติพิจารณา ฝึกเจริญสติ ก่อนการกระทำการใดๆค่ะ  รวมทั้งการนำ อิทธิบาท หรือ อิทธิบาท 4มาใช้ เป็น ฐานหรือกำลังสู่ความสำเร็จ คุณธรรมที่นำไปสู่ความสำเร็จแห่งการงานหรือการเรียน ในระยะยาว นั้นมี  ๔ ประการ 
ฉันทะ (ความพอใจ) คือ ความต้องการที่จะทำ ใฝ่ใจรักจะทำสิ่งนั้นอยู่เสมอ
วิริยะ (ความเพียร) คือ ขยันหมั่นประกอบสิ่งนั้นด้วยความพยายาม เข้มแข็ง อดทน เอาธุระไม่ท้อถอย
จิตตะ (ความคิด) คือ ตั้งจิตรับรู้ในสิ่งที่ทำ และทำสิ่งนั้นด้วยความคิด เอาจิตฝักใฝ่ ไม่ปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านเลื่อนลอยไป
วิมังสา (ความไตร่ตรอง หรือ ทดลอง) คือ หมั่นใช้ปัญญา พิจารณาใคร่ครวญ ตรวจหาเหตุผล และตรวจสอบข้อยิ่งหย่อนในสิ่งที่ทำนั้น มีการวางแผน วัดผล คิดค้นวิธีแก้ไขปรับปรุง

ขอบคุณค่ะ#zodietcwise และฝากอ่านเรื่องต่างๆในบล็อกด้วยค่ะ

หากสนใจดูดวง อินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ หรือจะนัดให้ทำนายทางไลน์ก็ได้ค่ะ https://line.me/ti/p/DxUHcrL7-M
ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากจากตำราโดยศิษย์ ส.ไชยนันท์, ตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร,
อาจารย์ศ.ดุสิต,อาจารย์พันเอก(พิเศษ)เอื้อน มนเทียรทอง,อาจารย์ดำริห์ ไตรรัตน์ รวมทั้งหลายท่านอาจารย์และบรมครูโหราศาสตร์ที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณ ที่นี้

 

  


ความคิดเห็น