ช่วงนี้ดาวอังคารจรและดาวอาทิตย์จรเข้าคู่กัน มาได้พักใหญ่ โดยช่วงต้นเดือนตุลาคมจรอยู่ในราศีกันย์ ซึ่งดาวอังคารเป็นมหาจักร โดยดาวอังคารยกเข้าราศีตุลก่อนในวันที่ ๒๑ ตุลาคม และดาวอาทิตย์ยกเข้าในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ในราศีตุลย์ คู่ดาวอาทิตย์และดาวอังคารเป็นดาวบาปเคราะห์ และมีความเป็นดาวคู่อริ ตามตำนาน และกลอน "อาทิตย์ผิดกับอังคาร"ด้วย แต่ทั้งสองในมุมของราศีเมษและ
สิงห์ก็เป็นดาวธาตุไฟค่ะ
อาทิตย์ในราศีกันย์ จะฉลาดเชิงไหวพริบ มีเชาวน์ในเชิงช่างต่างๆ เขียนหนังสือ แต่งกลอนดี ร่างกายจะบอบบางแบบสตรี และเมื่ออาทิตย์เข้าราศีตุลย์นั้น จะเด่นด้านการต้าขาย ตวามสวยงาม เพลิดเพลินการเที่ยวเตร่ หรือการทำอาชีพขายเครื่องดองของเมา
ส่วนดาวอังคารนั้นในราศีกันย์ จะให้คุณด้านวิชาการ และอังคารในราศีตุลย์จะมีชัยชนะเหนือศัตรู
เมื่ออาทิตย์และอังคารรวมกันจะทำให้ ผู้นั้นมีกำลังมาก กล้าหาญไม่กลัวใครมิใคร่กลัวภัยอันตรายต่างๆ จะมีทรัพย์สินเพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อองศาเข้าใกล้กันหรือร่วมกัน โดยดาวอังคารอยู่ในลักษณะไม่เกิน ๓องศาหน้าและหลังจากอาทิตย์ ควรเตือนสติเรื่อง อุบัติเหตุ หรือความกล้าในสิ่งที่ไม่ควรกล้า หรือขี้ขลาดไม่กล้าสู้ความจริง จะเกิดขึ้นมากเมื่อเกิดการเข้าใกล้กันในลักษณะกุมกันจะทำให้อังคารเข้าสู่จุดดับ นอกจากนี้ การเพิ่มพลังอาจทำให้ความร้อนในกายตัวเพิ่ม อาจจะเป็นไข้ แต่ก็จะเพิ่มความอดทนและสามารถต้านทานความลำบากมากขึ้น
แต่จริงๆ ในการทำนายนั้นโหรที่ชำนาญก็ จะพิจารณาเรื่องของดาวฆาต คือดาวจรที่จะเข้าราศีใดแล้วเกิดผลตาม ก่อนอื่นเป็นสำคัญ
ปัศวราศี อันได้แก่ เมษ,พฤษภและ สิงห์ มีดาวพฤหัสบดีเป็นฆาต
อัมพุชราศี อันได้แก่ กรกฎ,มังกรและ มีน มีดาวอังคารเป็นฆาต
นรราศี อันได้แก่ เมถุน,กันย์,ตุลย์,ธนูและกุมภ์ มีดาวเสาร์เป็นฆาต
กีฏราศี ได้แก่ราศีพิจิก มีดาวราหูเป็นดาวฆาต
ถ้าปีใดดาวอังคาร,พฤหัสบดี,เสาร์หรือราหูเป็นกาลกรรณีหรือกาลกิณีจรแล้วให้ระวังถ้าดาวกาลกิณีจรเข้าในราศีบังคับ ตามด้านบนค่ะ จะมีโอกาศให้โทษ โดยอย่างยิ่งเมื่อถ้าทับลัคน์หรือจันทร์หรือตนุลัคน์หรือตนุเศษแล้วยิ่งอาจจะเกิดโทษแรง แต่ถ้าไม่ทับจุดดังกล่าวก็อาจจะเกิดโทษเพียงกึ่งหนึ่ง แต่กรณีไม่จรเป็นกาลกิณี การจรเข้าสู่ราศีบังคับก็ไม่ทำให้เกิดผลดีหรือผลร้ายแก่เจ้าชะตาได้ในขณะเดินจรในราศีนั้น และผลก็มักจะเกิดเมื่อได้รับแสงจากดวงอาทิตย์จรด้วยกล่าวคือผลจะเกิดเมื่ออาทิตย์ส่งกระแสถึงจุดนั้นได้แก่ทับเรือนกัน เป็นโยค เป็นตรีโกณ หรือเป็นองค์เกณฑ์กับราศีนั้นๆ ให้พิจารณาในลำดับต่อไป
ขิงก็รา ข่าก็แรง เป็นสำนวนที่หลายคนรู้จักดี พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ให้ความหมายไว้ว่า ต่างก็จัดจ้านพอ ๆ กัน หรือ ต่างก็มีอารมณ์ร้อนพอ ๆ กัน หรือ ต่างไม่ยอมลดละกัน โดยทั้ง ขิงและข่า ต่างเป็นพืชผักสมุนไพรที่ให้คุณประโยชน์เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย มีฤทธิ์ลดอักเสบ ต้านไวรัสได้ค่ะ
ดังนั้นในเมื่อทุกสิ่งต่างก็มีมุมดีๆของตัวเองค่ะ แม้ว่าสองสิ่งต่างก็มีฤทธิ์มีเดชมีความภาคภูมิในคุณสมบัติของตน แต่ก็ควรจะประสานกันให้ได้ เมื่อต่างต้องมารวมกันไม่ว่าจะเป็นในที่ทำงาน,ที่บ้านหรือในชุมชนหรือสังคมโดยรวม ขอให้ตระหนักว่าเราก็มีสิ่งที่ดี นำออกมาใช้ยิ่งมาผสมกับสิ่งที่ดีของเพื่อนร่วมงาน,เพื่อนร่วมอาชีพ หรือพันธมิตรทางธุรกิจ รวมไปถึง การร่วมมือกันในสังคมเพื่อการกุศล องค์กรต่างๆ อย่าตั้งแง่กันหรือสร้างกำแพงทิฐิมานะ ซึ่งจะทำให้ ถอยหลังลงคลองไปทั้งองค์กรค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น