เรื่องของทักษานั้นเคยพูดถึงบ้างแล้วใน ภูมิทักษาตอนที่๑-๓ และเรื่อง ศุภะ กัมมะ และมนตรี
สำหรับบุคคลต่างๆจะพิจารณาตามวันเกิด โดยกำหนดทายภูมิพระเคราะห์ว่าพระเคราะห์นั้นๆตกภูมิอะไร เริ่มนับจากตำแหน่งแรก เป็นบริวาร อายุ,เดช,ศรี, มูละ,อุตสาหะ,มนตรี และ จนถึงกาลกิณี อันดับสุดท้าย
การนำทักษามาใช้จะช่วยการพยากรณ์ให้ละเอียดขึ้น เพราะนำอีกส่วนนึงมาเสริมเข้าไปในดวงอีแปะหรือในจักรราศี ซึ่งการใช้จะช่วยพยากรณ์ให้ละเอียดขึ้นต้องมีความเข้าใจเรื่องนี้พอสมควร มิฉะนั้นจะสับสนมากขึ้นค่ะ
เช่น บุคคลที่เกิดวันอาทิตย์ ตำแหน่งตามทักษาคือ
๑.บริวาร คือ ดาวอาทิตย์ ดังนั้นราศีสิงห์จึงเป็นเรือนบริวาร
๒.อายุ คือ ดาวจันทร์ ดังนั้น ราศีกรกฎจึงเป็นเรือนอายุ
๓.เดช คือ ดาวอังคาร ดังนั้น ราศีเมษ และ พิจิกจึงเป็นเรือนเดช
๔.ศรี คือ ดาวพุธ ดังนั้น ราศีมิถุนและ กันย์จึงเป็นเรือนศรี
๕.มูละคือ ดาวเสาร์ ดังนั้น ราศีมังกร คือเรือนมูละ
๖.อุตสาหะ คือ ดาวพฤหัสบดี ดังนั้น ราศีธนูและมีน คือ เรือนอุตสาหะ
๗. มนตรี คือ ดาวราหู ดังนั้น ราศีกุมภ์ คือ เรือนมตรี
๘.กาลกิณี คือ ดาวศุกร์ ดังนั้น ราศีพฤษภ และตุลย์ คือ เรือนกาลกิณี
บุคคลที่เกิดวันจันทร์ ตำแหน่งตามทักษาคือ
๑.บริวาร คือดาวจันทร์ ดังนั้นราศีกรกฎจึงเป็นเรือนบริวาร
๒.อายุ คือ ดาวอังคาร ดังนั้น ราศีเมษ และพิจิกจึงเป็นเรือนอายุ
๓.เดช คือ ดาวพุธ ดังนั้น ราศีมิถุน และ กันย์ จึงเป็นเรือนเดช
๔.ศรี คือ ดาวเสาร์ ดังนั้น ราศีมิมังกร จึงเป็นเรือนศรี
๕.มูละคือ ดาวพฤหัส ดังนั้น ราศีธนูและ มีน คือเรือนมูละ
๖.อุตสาหะ คือ ดาวราหู ดังนั้น ราศีกุมภ์ คือ เรือนอุตสาหะ
๗. มนตรี คือ ดาวศุกร์ ดังนั้น ราศีพฤษภและตุลย์ คือ เรือนมตรี
๘.กาลกิณี คือ ดาวอาทิตย์ ดังนั้น ราศีสิงห์ คือ เรือนกาลกิณี
บุคคลที่เกิดวันอังคาร ตำแหน่งตามทักษาคือ
๑.บริวาร คือดาวอังคาร ดังนั้นราศีเมษ และพิจิกจึงเป็นเรือนบริวาร
๒.อายุ คือ ดาวพุธ ดังนั้น ราศีมิถุน และกันย์ จึงเป็นเรือนอายุ
๓.เดช คือ เสาร์ ดังนั้น ราศีมังกร จึงเป็นเรือนเดช
๔.ศรี คือ พฤหัสบดี ดังนั้น ราศีธนู และ มีน จึงเป็นเรือนศรี
๕.มูละคือ ราหู ดังนั้น ราศีกุมภ์ คือเรือนมูละ
๖.อุตสาหะ คือ ศุกร์ ดังนั้น ราศีพฤษภ และ ตุลย์ คือ เรือนอุตสาหะ
๗. มนตรี คือ อาทิตย์ ดังนั้น ราศีสิงห์ คือ เรือนมตรี
๘.กาลกิณี คือ จันทร์ ดังนั้น ราศีกรกฎ คือ เรือนกาลกิณี
บุคคลที่เกิดวันพุธ ตำแหน่งตามทักษาคือ
๑.บริวาร คือดาวพุธ ดังนั้นราศีมิถุน และ กันย์จึงเป็นเรือนบริวาร
๒.อายุ คือ ดาวเสาร์ ดังนั้น ราศีมังกร จึงเป็นเรือนอายุ
๓.เดช คือ ดาวพฤหัสบดี ดังนั้น ราศีธนูและมีน จึงเป็นเรือนเดช
๔.ศรี คือ ดาวราหู ดังนั้น ราศีกุมภ์ จึงเป็นเรือนศรี
๕.มูละคือ ดาวศุกร์ ดังนั้น ราศีพฤษภและตุลย์ คือเรือนมูละ
๖.อุตสาหะ คือ ดาวอาทิตย์ ดังนั้น ราศีสิงห์ คือ เรือนอุตสาหะ
๗. มนตรี คือ ดาวจันทร์ ดังนั้น ราศีกรกฎ คือ เรือนมตรี
๘.กาลกิณี คือ ดาวอังคาร ดังนั้น ราศีเมษและพิจิก คือ เรือนกาลกิณี
บุคคลที่เกิดวันพฤหัสบดี ตำแหน่งตามทักษาคือ
๑.บริวาร คือดาวพฤหัสบดี ดังนั้นราศีธนู และมีนจึงเป็นเรือนบริวาร
๒.อายุ คือ ดาวราหู ดังนั้น ราศีกุมภ์ จึงเป็นเรือนอายุ
๓.เดช คือดาวศุกร์ ดังนั้น ราศีพฤษภและตุลย์ จึงเป็นเรือนเดช
๔.ศรี คือ ดาวอาทิตย์ ดังนั้น ราศีสิงห์ จึงเป็นเรือนศรี
๕.มูละคือ ดาวจันทร์ ดังนั้น ราศีกรกฎ คือเรือนมูละ
๖.อุตสาหะ คือ ดาวอังคาร ดังนั้น ราศีเมษและพิจิก คือ เรือนอุตสาหะ
๗. มนตรี คือ ดาวพุธ ดังนั้น ราศีมิถุนและกันย์ คือ เรือนมตรี
๘.กาลกิณี คือ ดาวเสาร์ ดังนั้น ราศีมังกร คือ เรือนกาลกิณี
บุคคลที่เกิดวันศุกร์ ตำแหน่งตามทักษาคือ
๑.บริวาร คือดาวศุกร์ ดังนั้นราศีพฤษภ และตุลย์จึงเป็นเรือนบริวาร
๒.อายุ คือ ดาวอาทิตย์ ดังนั้น ราศีสิงห์ จึงเป็นเรือนอายุ
๓.เดช คือดาวจันทร์ ดังนั้น ราศีกรกฎ จึงเป็นเรือนเดช
๔.ศรี คือ ดาวอังคาร ดังนั้น ราศีเมษและพิจิก จึงเป็นเรือนศรี
๕.มูละคือ ดาวพุธ ดังนั้น ราศีมิถุนและกันย์ คือเรือนมูละ
๖.อุตสาหะ คือ ดาวเสาร์ ดังนั้น ราศีมังกร คือ เรือนอุตสาหะ
๗. มนตรี คือ ดาวพฤหัสบดี ดังนั้น ราศีธนูและมีน คือ เรือนมตรี
๘.กาลกิณี คือ ดาวราหุ ดังนั้น ราศีกุมภ์ คือ เรือนกาลกิณี
บุคคลที่เกิดวันเสาร์ ตำแหน่งตามทักษาคือ
๑.บริวาร คือดาวเสาร์ ดังนั้นราศีมังกร จึงเป็นเรือนบริวาร
๒.อายุ คือ ดาวพฤหัสบดี ดังนั้น ราศีธนูและมีน จึงเป็นเรือนอายุ
๓.เดช คือดาวราหู ดังนั้น ราศีกุมภ์ จึงเป็นเรือนเดช
๔.ศรี คือ ดาวศุกร์ ดังนั้น ราศีพฤษภและตุลย์ จึงเป็นเรือนศรี
๕.มูละคือ ดาวอาทิตย์ ดังนั้น ราศีสิงห์ คือเรือนมูละ
๖.อุตสาหะ คือ ดาวจันทร์ ดังนั้น ราศีกรกฎ คือ เรือนอุตสาหะ
๗. มนตรี คือ ดาวอังคาร ดังนั้น ราศีเมษและพิจิก คือ เรือนมตรี
๘.กาลกิณี คือ ดาวพุธ ดังนั้น ราศีมิถุนและกันย์ คือ เรือนกาลกิณี
ในทักษากำเนิดนั้นตำแหน่งสำคัญๆได้ถูกนำมาจัดแบ่งไว้คือ
ชั้น๑.เดข,มนตรี (เดช,มนตรี หมายถึง ยศ, ตำแหน่ง)
ชั้น๒. บริวาร,อุตสาหะ ( บริวาร,อุตสาหะ หมายถึง การรวมการบริหาร,วิชาการ ผลงานการปฎิบัติ)
ชั้น๓. ศรี,มูละ (ศรี,มูละ หมายถึง ความดี,ความสะดวก,หลักฐาน,วิทยาการ,ผู้อนุเคราะห์)
บริวารกำเนิด:
สถิตย์เรือนบริวาร มีเครื่องใช้สมบูรณ์,พรรคพวกพี่น้องมาก
สถิตย์เรือนอายุ สุภาพ มีสัมมาคารวะ รู้จักถ่อมตน
สถิตย์เรือนเดช มีอำนาจ ทำการใดสัมฤทธิผล
สถิตย์เรือนศรี มีสติปัญญารอบคอบ ทำการสุขุม
สถิตย์เรือนมูละ มียั้งคิดถูกผิด
สถิตย์เรือนอุตสาหะ มีเกียรติภูมิในวิชาการต่างๆ
สถิตย์เรือนมนตรี มีวาสนาในตำแหน่งหน้าที่การปกครอง
สถิตย์เรือนกาลกิณี มีเรื่องวุ่นวาย
อายุกำเนิด:
สถิตย์เรือนบริวาร สุขุมทำกิจการมีระบบระเบียบ
สถิตย์เรือนอายุ สุขภาพไม่ค่อยเข็มแข็ง ทำงานช้า ระวังตัว
สถิตย์เรือนเดช มีพละกำลัง สมองดี มีความมั่นคง
สถิตย์เรือนศรี มีความเจริญ สุขภาพดี
สถิตย์เรือนมูละ มีนิสัยหงุดหงิด ริษยา
สถิตย์เรือนอุตสาหะ มีสมองดี รอบคอบ
สถิตย์เรือนมนตรี มักแผ่เมตตา อายุยืน
สถิตย์เรือนกาลกิณี มีโรคภัยเบียดเบียน อายุสั้น
เดชกำเนิด:
สถิตย์เรือนบริวาร อุดมด้วยเกียรติยศ มีชื่อเสียงเด่น
สถิตย์เรือนอายุ นักค้นคว้า ทำการใดประสิทธิผล
สถิตย์เรือนเดช มียศและอำนาจสูง
สถิตย์เรือนศรี มีวาสนามีเกียรติศักดิ์
สถิตย์เรือนมูละ มีตำแหน่งงานเด่น ใหญ่โตมีหลักฐาน
สถิตย์เรือนอุตสาหะ มีเกียรติ ได้ปริญญา
สถิตย์เรือนมนตรี มีความสมบูรณ์ มีความสุขในรอบครัว
สถิตย์เรือนกาลกิณี มีอันตราย และเกิดภัยเพราะทะนง
ศรีกำเนิด:
สถิตย์เรือนบริวาร ปัญญาดี อุดมสมบูรณ์ไม่เดือดร้อน
สถิตย์เรือนอายุ รูปร่างดีไร้โรคภัยเบียดเบียน มีนิสัยดี
สถิตย์เรือนเดช มีวาสนาได้เป็นเหนือตระกูล
สถิตย์เรือนศรี มีบุญไม่ยากเข็ญ
สถิตย์เรือนมูละ มีหลักฐานมั่นคง ความรู้ดี
สถิตย์เรือนอุตสาหะ ได้ปริญญาสูง สมองปลอดโปร่ง
สถิตย์เรือนมนตรี มียศตำแหน่งสูง ได้ผู้อุ้มชู
สถิตย์เรือนกาลกิณี มีภัยพิบัติ
มูละกำเนิด:
สถิตย์เรือนบริวาร ได้รับมรดกตกทอด
สถิตย์เรือนอายุ มักมีโรคเบียดเบียน นิสัยเสื่อม เจ้าระแวง
สถิตย์เรือนเดช มีสมองดี มีตำแหน่งสูง รอบคอบ
สถิตย์เรือนศรี มีความสุขในวิถีชีวิตและครอบครัว
สถิตย์เรือนมูละ มักจะอิจฉาริษยาผู้อื่น ใจโลเล
สถิตย์เรือนอุตสาหะ มักบูรณะ มักสะสม ตระหนี่
สถิตย์เรือนมนตรี ใจอารี ชอลช่วยผู้อื่น
สถิตย์เรือนกาลกิณี ไม่สงบสุข
อุตสาหะกำเนิด:
สถิตย์เรือนบริวาร มีวิทยาการเด่น มีชื่อเสียง กว้างขวาง
สถิตย์เรือนอายุ รอบคอบทำงานใดมีประสิทธิพล
สถิตย์เรือนเดช มีตำแหน่งการงานดี และเด่นในผลงาน
สถิตย์เรือนศรี มีบุญวาสนา ไม่ตกต่ำ
สถิตย์เรือนมูละ มักเสริมสร้างวิทยะฐานะ รุ่งโรจน์
สถิตย์เรือนอุตสาหะ ทำงานเข็มแข็ง ไม่ท้อถอย ความรู้เด่น
สถิตย์เรือนมนตรี มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต
สถิตย์เรือนกาลกิณี เกียจคร้าน เปลี่ยนงานทำการใดไม่ลุล่วงสำเร็จ
มนตรีกำเนิด: สถิตย์เรือนใดก็ส่งผลดี เว้นแต่เรือนกาลกิณีดีแล้วเสื่อมภายหลัง
กาลกิณีกำเนิด: สถิตย์เรือนใดก็ส่งผลร้าย คือต้องผ่านอุปสรรคเสียก่อนแล้วจึงรอด เรือนกาลกิณีถือเป็นเรือนร้ายให้โทษ เช่นศรีกุมลัคน์ในเรือนกาลกิณี ต้นดีหลังร้าย
ทักษาเรือนในและเรือนนอกนี้เป็นสำคัญที่สามารถทายพื้นชะตากำเนิดว่าจะมีวาสนาสูงส่งเพียงใด มียศศักดิ์หรือหลักฐานประมาณใด
ตนุไซร้ในชาตาสามสถาน ถ้าเป็นเดช มนตรี ศรีต้องการ
สรรเสริญสามสถานให้คุณดี จะภิญโญยิ่งกว่าคณาญาติ
สุขไม่ขาดยศเลิศประเสิรฐศรี ถ้าอายุ บริวาร พานพอดี
อุตสาหะ มูละนี้ประมาณไป มักเกิดทุกข์แค้นเคืองอยู่เนืองนิจ
จะพึ่งญาติพึ่งมิตรนั้นมิได้ อาภัพร้อนบั่นทอนไซร้
จะทำมาหาได้พอเลี้ยงตน ผิวกาลกิณีเป็นตนุไซร้
จะเข็ญใจอาภัพอับลาภผล ถ้ามีแล้วภายหลังจะกลับจน
ในกายตนมีตำหนิและไฝปาน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น