กระทิง มักจะถูกนำไปเป็นสํญลักษณ์ ของความกระฉับกระเฉง หรือการต่อสู้ไม่ย่อท้อ โดยทั่วๆไป
แต่ในทางโหราศาตร์ เป็นฤกษ์ชาวบ้าน ที่ถ้าวันใดดิถีตรงกับกระทิงวัน วันนั้นท่านห้ามให้ฤกษ์กระทำการใดๆ ถึงกับสาปแช่งผู้ให้ฤกษ์ประสบความพินาศกันเลยค่ะ
"กระทิงวัน"คืออะไร? วันที่ดิถี ตรงกับเดือน นั่นเอง คือ กระทิงวัน เช่น วันขึ้น/แรม ๑ ค่ำเดือน๑ หรือ วันขึ้น/แรม๑ค่ำเดือน๑ เป็นวันอับ วันให้โทษสำหรับผู้ที่จะก่อการมงคล แต่ถ้าเป็นงานอวมงคลก็ไม่เป็นไร เช่นวันฌาปนากิจศพ เป็นต้น
เดือนหนึ่งๆจะมีกระทิงวันสองวันค่ะ คือข้างขึ้นกับข้างแรมอีกวันหนึ่ง
มีข้อยกเว้นให้สำหรับผู้มีกิจการที่จะต้องกระทำทุกวันเป็นอาจิณอยู่ก่อนแล้ว เพราะมีอานิสงฆ์ของการกระทำเป็นอาจิณมารองรับอยู่แล้ว เช่นนักบิน หรือแอร์โฮสเตส หรือคนขับแท็กซี่ อย่างไรก็ควรจะรอบคอบในวันนั้นเป็นพิเศษ เพราะเป็นวันเปราะที่จะหักโค่นได้ง่าย หรือแม้แต่ในการสังคมระหว่างเพื่อนฝูง ก็มีโอกาสเกิด การมีเรื่องกับคนอื่นได้ง่ายกว่าวันอื่นยังงี้จึงให้โทษทางอ้อม
ข้อควรพิจารณาอย่างนึงคือตำราว่าไว้ สำหรับคนที่มีวันเกิดในวัน กระทิงวันค่ะ ควรจะรอบคอบ ให้มากๆ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ คำกล่าวโบราณว่าไว้เกี่ยวกับฤกษ์ชาวบ้าน เช่น
เสาร์ห้ามปิด อาทิตย์ห้ามบั่น จันทร์ต้องสาน อังคารต้องขุด พุธห้ามตัด พฤหัสฯห้ามถอน ศุกร์ห้ามเผา
ไม่ทราบมีใครเคยได้ยินหรือไม่
๑.เสาร์ห้ามปิด หมายถึงวันนี้ไม่ควรทำการปิดกั้นอะไรทั้งนั้น ควรเปิดให้โล่ง เช่นเปิดประตูหน้าต่างรับลม
และไม่ควรจะปิดกิจการที่ดำเนินอยู่
๒.อาทิตย์ห้ามบั่น หมายถึงการตัดรอน ในเชิงมงคล เช่น ผัวเลิกเมีย แต่ไม่ห้ามในการเลิกยาเสพติด
๓.อังคารต้องขุด หมายถึงการขุดเพื่อตกแต่งหรือเป็นการนำสิ่งที่ถูกเก็บไว้ มาประกอบการใหม่ สมัยก่อน
ก็จะอิงในแง่ของการรดน้ำพรวนดินจึงให้เริ่มลงมือทำในวันนี้จะเป็นมงคล
๔. พุธห้ามถอน ในที่นี้ห้ามการเชือดเฉือน เช่นการตัดผมหรือแม้แต่ผ่าตัด
๕. พฤหัสฯ ห้ามถอน ก็คือการถอนฟัน ในวันนี้เลือดจะออกมาก หรือการถอนเสารเรือนหรือรื้อบ้าน
๖. ศุกร์ห้ามเผา ไม่ควรเผาศพในวันนี้
นอกจากนี้ขอนำเรื่องของยามนาฬิกามาอธิบายค่ะ เพราะความเข้าใจเรื่องของยามนาฬิกาจะเอาไปใช้ในวันกระทิงได้ การเรียนรู้ในวิชานี้คือ การนำจักรราศีวางโดยมีหน้าปัดนาฬิกา ตามรูป
-ราศีเมษจะตรงกับเลข๑๒ของนาฬิกา โดยเลข๑๒อยู่ที่กึ่งกลางของเส้นราศีพอดี
-ราศีมีนคือเลข๑ ราศีกุมภ์คือเลข๒ ไปเรื่อยๆ จนเลขที่๑๑คือราศีพฤษภ คือหน้าจักราศีจะกลายเป็นหน้าปัดเข็มนาฬิกา
วิธีการดูหรือทำนาย ก็เอาลัคนาของเจ้าชะตาเป็นคนกำหนดภพขึ้นมา เมื่อเข็มนาฬิกาชี้ไปที่เลขอะไรก็ไปพิจารณาว่าราศีนั้นถูกกำหนดเป็นภพอะไรเอาความหมายของภพนั้นมาเป็นเครื่องทำนาย โดยเข็มสั้นเป็นตัวบอกเรื่องหรือเหตุที่จะเกิดขึ้น และเข็มยาวเป็นตัวบอกรายละเอียดของเหตุนั้น แต่ในบางครั้งอาจจะใช้ความหมายทั้งสองเข็มมาประยุกต์กันแล้วออกคำทำนายก็ได้ หากผู้นั้นเข้าใจเรื่องของการประกอบของภพต่างๆในระดับหนึ่ง
ตัวอย่างคือ สมมติมีคนมากดกริ่งที่หน้าบ้าน และคุณยกนาฬิกาดูเห็นว่าเวลาคือ๑๑.๒๗ น. และคุณทราบลัคนาตัวเองสถิตย์ราศีตุลย์ ก็อ่านตามเข็มนาฬิกาที่ชี้ได้ว่า มรณะ-กดุมพะ หรือ กดุมพะ-มรณะ ซึ่งการตีความหมายก็คือ เพื่อนที่มายืนกดกริ่งนั้นจะมาขอยืมเงิน ซึ่งการตัดสินใจต่อไปก็ขึ้นกับคุณค่ะ การนำยามนาฬิกามาช่วยแก้ไข คนโบราณถือเป็นการลดความเสี่ยง ในกระทิงวันที่ มีทั้งข้างขึ้นและข้างแรม
เป็นเกร็ดที่น่าสนใจจึงนำมาพูดถึงไว้ค่ะ
ขอบคุณค่ะ#zodietcwise และฝากอ่านเรื่องต่างๆในบล็อกด้วยค่ะ
หากสนใจดูดวง อินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ หรือจะนัดให้ทำนายทางไลน์ก็ได้ค่ะ https://line.me/ti/p/DxUHcrL7-M
ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร, อาจารย์ศ.ดุสิต,อาจารย์พันเอก(พิเศษ)เอื้อน มนเทียรทอง,อาจารย์ดำริห์ ไตรรัตน์, อาจารย์พลูหลวง รวมทั้งหลายท่านอาจารย์และบรมครูโหราศาสตร์ที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น