เคล็ดดาวแปรธาตุ & ดวงจตุสดัยเกณฑ์

วันนี้ขอพูดถึงสองเรื่องที่น่าสนใจค่ะ

- เคล็ดดาวแปรธาตุ
เรื่องธาตุนั้นเคยนำมากล่าวถึงแล้วค่ะ #ธาตุสี่ชั้น หรือ #ดาวแปรธาตุ ใน บล็อก ลองหาอ่านได้ค่ะ มี ๔ ระดับคือ

๑.ดาวเข้าอยู่ราศีธาตุของตนเอง (อสีติธาตุ)
๒.ดาวเข้าอยู่ในราศีธาตุที่เป็นคู่มิตร
๓. ดาวเข้าอยู่ในราศีธาตุที่เป็น
๔. ดาวเข้าอยู่ในราศีที่เป็นศัตรูธาตุของตนเอง (ให้โทษ)

การที่ดาวเดิมในดวงราศีจักรนั้นสถิตอยู่ในราศีที่ไม่ใช่ธาตุของตนเองจะทำให้ดาวนั้นจะแปรเอาธาตุจากราศีที่ตนเองอาศัยอยู่ติดตัวในขณะที่โคจรไปในราศีต่างๆ

เช่น จันทร์ธาตุดินมาอยู่ธาตุน้ำ
อังคารธาตุลมมาอยู่ธาตุดิน
ศุกร์ธาตุน้พมาอยู่ธาตุดิน
เสาร์ธาตุไฟมาอยู่ธาตุลม
ราหูธาตุลมอยู่ธาตุดิน
พฤหัสธาตุดินอยู่ธาตุลม
มีดาวอาทิตย์และพุธเท่านั้นอยู่ในธาตุของตัวเอง

กรณีดาวเดินจร ดาวจะเกิดการแปรธาตุเมื่อไปสถิตในราศีอีกธาตุหนึ่ง การแปรธาตุของดาวนั้นทำให้ ดาวนั้นดีขึ้นหรือเลวลงอย่างใดและการเข้าไปสถิตยังราศีธาตุต่างๆของดาวในแต่ละช่วงนั้น ก็เป็นตัวบอกเหตุการณ์ดี-ร้าย อะไรจะเกิดขึ้นกับเจ้าชะตา ก็จะเป็นไปตามคุณสมบัติของดาวนั้นๆ

เช่น หากดาวพฤหัสธาตุดินซึ่งสถิตที่ราศีมิถุนธาตุลม ถ้าโคจรเข้าไปในราศีกุมภ์ธาตุลม ธาตุดินกับธาตุลมนั้นเป็นศัตรูธาตุกันก็จะทำให้ดาวพฤหัสอยู่อย่างไม่สุขสบายเท่าไหร่นัก แต่เมื่อแปรธาตุในลักษณะนี้แล้วพฤหัสก็จะเป็นดาวธาตุลมเข้าไปในราศีธาตุลมเหมือนกับได้อสีติธาตุเป็นธาตุชั้นหนึ่งระดับสองไปเลย

การแปรธาตุของดาวนั้นแสดงธรรมะอย่างหนึ่งว่าการแปรของสรรพสิ่งนั้นเป็นไปได้ เรียกว่าความไม่แน่นอน หรือที่พระท่านเรียกว่าอนิจจังซึ่ง ธาตุก็เป็นอนิจจังเช่นกัน


-ดวงจตุสดัยเกณฑ์ หริอจตุโกณ

คือ ดาวพระเคราะห์ที่มาเข้ามุม เป็น ๑, ๔, ๗, ๑๐ ต่อลัคนา หากลัคนาสถิตย์ราศีทวารด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเข้มแข็ง

ถ้าเป็นบาปเคระห์ล้วนๆ เข้ามุมจตุสดัยจะทำให้ชีวิตตกระกำลำบากหรือรับผลร้ายจากสิ่งอื่นๆ แม้จะมีอำนาจวาสนาสักปานใดก็ตามเว้นเสียแต่จะมีดาวศุภเคราะห์มาเข้ามุมจตุโกณร่วมด้วย เป็นการผ่อนอำนาจร้ายแรงของบาปเคราะห์ให้เบาบางลง

ตัวอย่างของดวงจตุสดัยเกณฑ์ ที่หยิบยกมาเป็นตัวละครเอก จากวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ ค่ะ คือ

ดวงพระราม
เมื่อพระนารายณ์ได้อวตารลงมาเกิดเป็นพระรามโดยเป็นบุตรของพระนางเกาสุริยาและท้าวทศรถผู้ครอง
กรุงอโยธยา พระราม (พระนารายณ์อวตาร) มีน้องจากพระนางไกยเกษีประสูติพระโอรสองค์รองคือ พระพรต (จักรแห่งพระนารายณ์มาเกิด)และน้องจาก พระนางสมุทรเทวีประสูติโอรสแฝดคือ พระลักษมณ์ (พญาอนันตนาคราช) และพระสัตรุด (คฑาพระนารายณ์)ด้วย

ดวงชะตาจะเป็นแบบดาวกระจาย ลัคนาสถิตย์ราศีทวาร เป็นจตุสดัยเกณฑ์ และมีดาวมหาอุจจ์ประจำหมดทั้ง ๔ทวาร สามารถปราบไปได้ทั่วทิศ

ดวงพญาพาลี ซึ่งเป็นลิงเจ้าเมืองขีดขิน ที่มีฤทธิ์มากที่สุดตัวหนึ่ง มีกายสีเขียว เป็นโอรสของพระอินทร์ กับ นางกาลอัจนา เดิมชื่อ กากาศ พญาพาลีมีน้องชายชื่อสุครีพ มีหนุมานเป็นหลาน
ดวงพญาพาลี เป็นแบบดาวกระจายเช่นกัน แต่อยู่ในแบบจับกลุ่มกันกระจายในรูปจตุสดัยเกณฑ์ ไม่ครบมุมคือ กระจายไม่ครบดวงเหมือนดวงพระราม แม้ว่าจะมีจันทร์ครุสุริยาอยู่ราศีทวารเหมือนกัน ก็จัดเป็นดวงที่แพ้ฤทธิ์ดวงพระราม

ดวงหนุมานเ ซึ่งป็นลิงเผือกทหารเอกของพระราม จึงมีสีขาวเป็นสีประจำกาย เมื่อสำแดงฤทธิ์จะมี ๔ หน้า ๘ มือ หาวเป็นดาวเป็นเดือน นอกจากนี้ ยังมีลักษณะประจำกายอื่น ๆ อีก เช่น สวมกุณฑล มีขนเพชร มีเขี้ยวเป็นแก้ว และ หาวเป็นดาวเป็นเดือน ดังกลอนตอนที่หนุมานเกิดว่า

ลอยอยู่ตรงพักตร์ชนนี รัศมีโชติช่วงในเวหา
มีกุณฑลขนเพชรอลงการ์ เขี้ยวแก้วแววฟ้ามาลัย
หาวเป็นดาวเดือนระวีวร แปดกรสี่หน้าสูงใหญ่
สำแดงแผลงฤทธิ์เกรียงไกร แล้วลงมาไหว้พระมารดร

ดวงของหนุมานเป็นแบบดาวรวมกลุ่ม โบราณเรียกว่าดวงสามเหลี่ยมถือว่ามีฤทธฺิ์ ไม่มีใครปราบได้ แต่ดวงแบบนี้จะแพ้ทางดวงแบบดาวกระจาย

“รามเกียรติ์” (ขอบคุณข้อมูล จากวิกีพีเดีย) มีเค้าจากวรรณคดีอินเดียคือมหากาพย์รามายณะที่ ฤๅษีวาลมีกิ ชาวอินเดีย แต่งขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต เมื่อประมาณ ๒๔๐๐ปีเศษ เชื่อว่าน่าจะเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ จากอิทธิพลของลัทธิพราหมณ์ฮินดู

สำหรับเรื่องรามเกียรติ์ของไทยนั้น มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีได้ทรงพระราชนิพนธ์สำหรับให้ละครหลวงเล่น ปัจจุบันมีอยู่ไม่ครบ ต่อมาในสมัยรัตนโกสินทร์รัชกาลที่ ๑ ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมีมาแต่เดิมให้ครบถ้วนสมบูรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ เพื่อให้ละครหลวงเล่น โดยได้ทรงเลือกมาเป็นตอนๆ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ โดยใช้ฉบับของอินเดีย (รามายณะ) มาพระราชนิพนธ์ ใช้ชื่อว่า "บ่อเกิดรามเกียรติ์"

ขอบคุณค่ะ#zodietcwise และฝากอ่านเรื่องต่างๆในบล็อกด้วยค่ะ
หากสนใจดูดวง อินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ หรือจะนัดให้ทำนายทางไลน์ก็ได้ค่ะ https://line.me/ti/p/DxUHcrL7-M

ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร, อาจารย์ศ.ดุสิต,อาจารย์พันเอก(พิเศษ)เอื้อน มนเทียรทอง,อาจารย์ดำริห์ ไตรรัตน์, อาจารย์พลูหลวง รวมทั้งหลายท่านอาจารย์และบรมครูโหราศาสตร์ที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้



ความคิดเห็น