มัชฌิมาปฏิปทา

วันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนแปดหลัง ปีฉลู

วันนี้เป็นวันพระ/วันอาสาฬหบูชา

วันนี้ดาวพุธจร(ประมาณ ๘.๔๘ องศา) ใกล้กับดาวอาทิตย์จร(ประมาณ ๗.๓๐องศา) ใกล้กันมาจนพุธดับค่ะ แม้จะเป็นดาวคู่วิชาการ แต่ตัวความคิดหรือสมองอาจจะผิดพลาดหรือมองเข้าข้างตนเองค่ะ ยิ่งมีเสาร์จรเล็งในเรือนตรงข้ามแล้วเสาร์เป็ในเชิงมุม ๑๘๐องศา อาจจะทำให้ได้รับความกระทบกระเทือนจากผู่ใหญ่, ทำให้มองโลกแง่ร้าย, มีนิสัยเฉื่อยชา หรือเห็นแก่ตัวได้ค่ะ อีกทั้งพุธจรเองก็จะทำให้ความคิดออกมาในแง่ลบหรือตัดสินใจรวนเร,ไม่เด็ดขาด มีความรวนเร เลือกดำเนินชีวิตในทางผิด สามารถพลาดโอกาสที่ดีหรือถูกกลั่นแกล้งถูกหักหลังได้ค่ะ

ส่วนดาวเกตุจรในราศีสิงห์ส่งแรงเอื้อมไปยังราศีธนูด้วยค่ะ อิทธิพลของเกตุในเชิงอุปนิสัยและรสนิยมที่อาจ จะมีลักษณะของความชอบอะไรแปลกๆหรือแผลงๆ,หรืออารมณ์ดูยากหรือชอบของโบราณ

ความลับของพระเกตุ คือพระเกตุในโหราศาสตร์ไทย นี้เพิ่งจะมีในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ โดยที่ตำราว่าพระเกตุไม่ใช่ดาวแต่เป็นจุดคำนวณโดยฝีมือของครูโหรในสมัยสองร้อยปีก่อนขึ้นไปเพื่อเป็นองค์ประกอบในการพยากรณ์บางอย่าง ครูโหรจัดพระเกตุเป็นสมพระเคราะห์คือไม่เป็นทั้งบาปเคราะห์และศุภะเคราะห์ และไม่ใช่อยู่กับใครก็เป็นอย่างคนนั้นแต่ท่านวางพระเกตุไว้ในสถานะของ" ผู้ช่วย " คือมีหน้าที่ในการช่วยเหลือดาวที่อยู่ในเขตอิทธิพลของพระเกตุให้ทำหน้าที่ของตนได้อย่างราบรื่นขึ้น อันนี้เป็นจุดประสงค์หลักในการสร้างพระเกตุขึ้นมาใช้ในวิชาโหราศาสตร์ไทย เขตที่ว่านี้มีสี่ราศี คือ มิถุน,ราศีกุมภ์,ราศีธนู,และราศีสิงห์ เคยเกริ่นบ้างในบทความเดิม #อานุภาพของเกตุไทย๙ อ่านได้ใน zodietcwise.blogspot นี้ค่ะ

สี่ราศีนี้มีเชิงมุมเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลางดวงราศีจักรเลยและตรงนี้แหละที่บรมครูเรียกว่าเขตของ โลงผี ซึ่งดวงใครมีดาวปรากฎล้อมกันในสี่ราศีนี้ก็จะได้รับการขนานนามว่าเป็น ดวงโลงศพ ฟังแล้วดูน่ากังวล แต่จากกฎเกณฑ์นั้น คือลัคนาหรือดาวใดมาสถิตก็จะได้รับความคุ้มครองเป็นอย่างดี ไม่มีตกอับ หรือหากตกอับก็จะพลิกฟื้นขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยการคุ้มครองนั้นจะมาจากพระเกตุค่ะ ในเขตคุ้มครองนี้เป็นเขตอิทธิพลของพระเกตุ ถ้ามีดาวใดไม่ว่าดาวเดิมหรือดาวจรเข้ามาอยู่ในเขตสี่ราศีนี้ก็เท่ากับว่าจะได้รับการคุ้มครองหรือถ้าทำผิดทำไม่ดีก็จะถูกลงโทษจากพระเกตุด้วยเช่นกัน โดยให้ดูว่าเกตุเดิมสถิตอยู่ราศีใดภพใดเช่น ภพมรณะ การคุ้มครองคือคุ้มครองในเรื่องของความสูญเสีย หรือถ้าจะลงโทษก็คือลงโทษในเรื่องให้เกิดความสูญเสียเช่นกัน และอีกประเด็นคือแรงเอื้อมของเกตุไปยังภพที่เก้าของตนเอง โดยพระเกตุจะเดินย้อนจักร การส่งแรงเอื้อมไปยังราศีธาตุเดียวกันที่อยู่ข้างหน้าของพระเกตุนั่นเอง ดาวใดสถิตอยู่ในแรงเอื้อมก็จะได้รับอิทธิพลของพระเกตุอย่างเต็มที่ทั้งคุณและโทษค่ะ

วันนี้เป็นอาสาฬหบูชา ค่ะ ขอกล่าวถึง" มัชฌิมาปฏิปทา" คือ ทางสายกลาง คือ การปฏิบัติที่ไม่สุดตึงด้านใดด้านหนึ่งอันได้แก่การแก้ทุกข์ที่ตัวต้นเหตุ คือ แก้ที่ภายในใจของเราเอง ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงเสนอแนวทางพ้นทุกข์ใหม่แก่โลก อันได้แก่การดำเนินตามมรรคมีองค์ 8 ซึ่งควรพิจารณาจากข้อความจากพระโอษฐ์โดยตรง ดังนี้

"ปฏิปทาสายกลาง ไม่เข้าไปใกล้ที่สุดสองอย่างนั้น นั่นตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน

ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็ปฏิปทาสายกลางที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่ง ทำดวงตา ให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อนิพพาน นั้น เป็นไฉน?

ปฏิปทาสายกลางนั้น ได้แก่อริยมรรค มีองค์ ๘ นี้แหละ คือปัญญาอันเห็นชอบ ๑ ความดำริชอบ ๑ เจรจาชอบ ๑ การงานชอบ ๑ เลี้ยงชีวิตชอบ ๑ พยายามชอบ๑ ระลึกชอบ ๑ ตั้งจิตชอบ ๑"

ดูกรภิกษุทั้งหลาย นี้แลคือปฏิปทาสายกลางนั้น ที่ตถาคตได้ตรัสรู้แล้วด้วยปัญญาอันยิ่งทำดวงตาให้เกิด ทำญาณให้เกิด ย่อมเป็นไปเพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ และเพื่อนิพพาน. ขอบคุณข้อมูลวิกีพีเดีย

ขอบคุณค่ะ#zodietcwise และฝากอ่านเรื่องต่างๆในบล็อกด้วยค่ะ

หากสนใจดูดวง อินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ หรือจะนัดให้ทำนายทางไลน์ก็ได้ค่ะ https://line.me/ti/p/DxUHcrL7-M

ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร, อาจารย์ศ.ดุสิต,อาจารย์พันเอก(พิเศษ)เอื้อน มนเทียรทอง,อาจารย์ดำริห์ ไตรรัตน์ รวมทั้งหลายท่านอาจารย์และบรมครูโหราศาสตร์ที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้