สังข์ ปาญจะขันยะ

 วันนี้ วันอังคาร แรม ๑๓ ค่ำ เดือนเจ็ด(๗) ปีฉลู

จันทร์จรยกเข้าราศีพฤษภตามปฎิทินสุริยยาตร์ พุธจรถอยหลังและเริ่มเดินมนฑ์มาคู่กับดาวจันทร์ ในราศีพฤษภ ส่วน อาทิตย์จรเดินหน้าในราศีพฤษภและจะย้าย เข้าราศีมิถุน ๑๕ มิถุนายนค่ะ ขณะที่ดาวศุกร์จรในราศีมิถุนตั้งแต่๓๑ พฤษภาคม และจะอยู่จนถึง๒๕มิถุนายน ยกเข้าราศีกรกฎ

อาทิตย์กะศุกร์ คู่สมพล โคจรเป็นโยคเกณฑ์ต่อกัน ตามกลอนที่ว่า
สุริยจรจรัลผันผอง ต้องศุกร์สมปอง
ประจิมจะเิดลาภา
ลาภมิตรดังปองพรรณา ไทท้าวพระยา
จะเป็นอวยศิริศุภผล
นิทานเทียบท้าวสุธน ได้มิ่งนฤมล
สมปองประโยชน์วิญญา
ถ้าเล็งถ้อยความมีมา ช่วยทาษไถ่ข้า
วิปริตด้วยสินซื้อขาย

ความหมายของบทกลอนคือ จรทับกันนั้นจะได้ลาภ อาจจะเป็นเรื่องของตำแหน่งหน้าที่ที่ดี, หรือผู้ใหญ่เอ็นดู, หรือได้ของทรัพย์สิน,หรือมีความสุขใจเหมือนได้ภรรยาถูกใจค่ะ แต่กรณีเล็งกันต้องระวังเรื่องของลูกน้อง,ลูกหลาน,หรืออาจจะผิดพลาดเรื่องของทรัพย์สิน

แต่การดูจรนั้นเมื่ออาทิตย์เข้าเรือนของราศีมิถุนเรือนของดาวพุธเป็นตำแหน่งราชาโชค การจรตามกันของดาวศุกร์ก็น่าจะเป็นเรื่องของการให้คุณค่ะ หากไม่เข้าสู่จุดดับค่ะ เพราะมีดาวพฤหัสบดีจรในราศีกุมภ์ เป็นโยคเกณพ์ถึงดาวศุกร์ค่ะ แต่สำหรับบุคคลนั้นต้องพิจารณาตำแหน่งของดาวทั้งสองเดิมประกอบค่ะ
เรื่องของดาวอาทิตย์ในโหราศาสตร์ชั้นสูงนั้น เนื่องจากเป็นดาวธาตุไฟ จึงให้คุณแก่ลัคนาที่สถิตอยู่ในราศีธาตุไฟเป็นพิเศษ การพิจารณากรณีดาวอาทิตย์กับดาวพุธสติปัญญา หากนำมาคิดต่อวิเคราะห์กันระหว่าง สามราศีธาตุไฟ
แล้วนั้น คือ
๑.ราศีเมษ อาทิตย์เป็นอุจจ์ และเป็นมหาอุจจ์ที่๑๐องศา (ในนวางค์ลูกที่สาม โดยมีดาวพุธเป็นเจ้านวางค์)
๒. ราศีสิงห์นั้น อาทิตย์เป็นเกษตร แต่ แม้องศาจะเป็น๑๐องศาก็ไม่ได้เป็นอุจจ์ดังนั้น อำนาจอิทธิพลของอาทิตย์จึงผลักดันให้เกิดวิชาการเด่นได้เพราะพุธในราศีสิงห์ช่วยเสริมในตำแหน่งมหาจักร,ราชาโชคให้คุณทางสติปัญญา ความจำดี แต่พลังของอาทิตย์จะน้อยกว่า อันเนื่องจากเรือนธาตุนั้นธาตุไฟกลางธาตุ
๓.ราศีธนูนั้น อาทิตย์จะให้คุณเพราะอยู่ในราศีธาตุไฟ กรณีกุมลัคน์จะได้นระเกณฑ์ แต่หากพิจารณาถึงดาวพุธนั้นจะเป็นตำแหน่งประ และเป็นราศีธาตุไฟปลายธาตุดังนั้นหากอาทิตย์กุมพุธในราศีนี้จะให้คุณปานกลางค่ะ

อีกหนึ่งตำนาน เกี่ยวกับสังข์ค่ะ ข้อมูลจากวิกีพีเดียค่ะ

สังข์ มีชื่อว่า ปาญจะชันยะ มีประวัติเล่าว่าเดิมเป็นเปลือกหอยสังข์หุ้มกายอสูรชื่อ ปัญจชน ต่อมาได้ถูก พระกฤษณะฆ่าตาย อวตารปางหนึ่งของพระวิษณุตามไปสังหาร ซึ่งจึงได้นำเปลือกสังข์มาใช้เป็นอาวุธ สังข์จึงเป็นหนึ่งในอาวุธของพระนารายณ์หรือองค์วิษณุุซึ่งเป็นหนึ่งในสามมหาเทพ อาวุธที่ว่าอันประกอบด้วย จักร์ สังข์ คทา ส่วนอีกกรจะถือ ดอกบัวบ้าง หรือ ไม่ถืออะไรเลยบ้าง (โดยจะอยู่ในลักษณะ"ประทานพร") สำหรับเรื่องของพระวิษณุนั้น สมัยพระเวท ชาวอารยันถือว่าพระวิษณุเป็นเทพชั้นรอง มีสถานะเป็นตัวแทนของพลังดวงอาทิตย์ เมื่อถึงสมัยพราหมณะพระวิษณุถูกยกย่องสูงขึ้นอีกในฐานะเทพผู้นำโชค แต่ยังไม่ถือเป็นมหาเทพ จนกระทั่งถึงสมัยปุราณะพระวิษณุจึงได้รับการยกย่องเป็นมหาเทพผู้รักษาคุ้มครองโลก และเชื่อว่าเป็นองค์เดียวกับพระนารายณ์

สังข์เป็นสัญลักษณ์ของน้ำ ชีวิต และความอุดมสมบูรณ์ เป็นอาวุธสำหรับขว้างไปทำลายส่วนที่เป็นหัวใจของศัตรูโดยเฉพาะ นอกจากนั้นยังใช้เป็นเครื่องเป่าเพื่อประกาศการเริ่มต้นของเหตุการณ์อันเป็นมงคล สามารถขับไล่สิ่งชั่วร้ายต่างๆ ได้

เรื่องของสังข์นั้นมีที่มีหลายแหล่งค่ะ มีพูดถึงทั้งในวรรณคดี เช่นเรื่อง สังข์ทอง เดิมทีนั้นเป็นบทเล่นละครในมีมาแต่กรุงสุโขทัยยังเป็นราชธานีถึงกรุงรัตนโกสินทร์  พระพระมเหสีจันเทวีได้คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์ จึงถูกพระนางจันทา มเหสีรอง ใส่ร้ายว่าเป็นกาลีบ้านเมือง จนถูกขับออกจากเมืองไปอยู่กระท่อมตายายที่ชายป่า จนกระทั่งพระสังข์ที่ซ่อนอยู่ในหอย ได้ออกมาพบแม่ สร้างความยินดีกับพระนางจันเทวีมากมเหสีจันเทวีได้คลอดลูกออกมาเป็นหอยสังข์ จึงถูกพระนางจันทา มเหสีรอง ใส่ร้ายว่าเป็นกาลีบ้านเมือง จนถูกขับออกจากเมืองไปอยู่กระท่อมตายายที่ชายป่า จนกระทั่งพระสังข์ที่ซ่อนอยู่ในหอย ได้ออกมาพบแม่ สร้างความยินดีกับพระนางจันเทวีมาก

และสังข์มีส่วนเกี่ยวข้องกับประเพณีเช่น สังข์รดน้ำ (Turbinella pyrum) เปลือกสีขาว รูปทรงงดงาม ใช้สำหรับหลั่งน้ำพระพุทธมนต์หรือน้ำเทพมนตร์, หรือ สังข์แตร (Charonia tritonis) เปลือกมีลาย ใช้เป่าในงานพิธีของชาวเกาะแถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ มีลักษณนามว่า ขอน เช่น สังข์ 2 ขอน เป็นต้น

ขอบคุณค่ะ#zodietcwise และฝากอ่านเรื่องต่างๆในบล็อกด้วยค่ะ

หากสนใจดูดวง อินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ หรือจะนัดให้ทำนายทางไลน์ก็ได้ค่ะ https://line.me/ti/p/DxUHcrL7-M
ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร, อาจารย์ศ.ดุสิต,อาจารย์พันเอก(พิเศษ)เอื้อน มนเทียรทอง,อาจารย์ดำริห์ ไตรรัตน์ รวมทั้งหลายท่านอาจารย์และบรมครูโหราศาสตร์ที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้









ความคิดเห็น