วันพุธ แรม ๖ ค่ำ เดือนแปด(๘) ปีฉลู
ดาวจันทร์จรเข้าราศีมีนในวันนี้ค่ะ
ระยะการโคจรของจันทร์สำแดงผลให้จันทร์เป็นทั้งศุภเคราะห์และบาปเคราะห์ คือถ้าหากโคจรในระยะตั้งแต่ขึ้น ๘ค่ำจนถึงแรม ๘ ค่ำ จันทร์นั้นจัดว่าเป็นศุภเคราะห์ ถ้าหากเป็นระยะแรม ๙ ค่ำถึง ขึ้น ๗ ค่ำ จันทร์ก็จัดเป็นดาวบาปเคราะห์ จันทร์ในข้างแรมจะมีแสงสว่างกว่าจันทร์ในตอนข้างขึ้น นอกจากข้างขึ้นแก่จริงๆ ทั้งอยู่ให้เห็นได้ตลอดจนกระทั่งรุ่งเช้า
อาศัยที่จันทร์อยู่ใกล้โลกและสามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าและที่สำคัญมีการโคจรเร็วกว่าดาวอื่นค่ะ คือ ระยะ ๕ วันต่อ ๒ ราศี หากศึกษาโหราศาสตร์ลองสังเกตุดูในท้องฟ้า(ในวันที่ไม่มีเมฆมาก)จะเห็นด้วยตาเปล่า เช่นเมื่อดูในปฎิทินว่าในวันนั้นๆจันทร์จรเข้าไปใกล้ดาวดวงใด ก็ให้พึงมองดูจันทร์บนท้องฟ้าและดาวที่เคียงจันทร์ในขณะนั้น หากดาวนั้นมีแสงไม่กระพริบคือส่องแสงจ้าเหมือนกับจันทร์แล้ว ดาวนั้นก็เป็นดาวเคราะห์ ถ้าดาวนั้นเปลี่ยนสีและมีแสงกระพริบอยู่ตลอด ก็จะเป็นหมู่ดาวฤกษ์ สีดาวเคราะห์จะเป็นสีที่แสดงให้คาดได้ว่าน่าจะเป็นดาวอะไร เช่นสีแดงก็น่าจะเป็นดาวอังคาร สีดำมัวสลัวก็เป็นดาวเสาร์ สีขาวนวลก๋น่าจะเป็นดาวพฤหัสบดี สีขาวสุกสว่างก็เป็นดาวศุกร์
ลักษณาการมองเห็นของดาวจันทร์นั้นจะเห็นความแหว่งเว้าของพระจันทร์ เมื่อมองจากแต่ละถิ่นจะเห็นเอียงไปทางเหนือบ้าง หรือเอียงไปทางใต้บ้าง เกิดเป็นคำพังเพยที่ว่า เอียงเหนือข้าวเกลือจะแพง เอียงใต้เชื้อไฟจะแพง นำมาใช้เป็นที่สังเกตุของการขึ้นลงของสินค้าของคนในยุคโบราณค่ะ
สำหรับจันทร์ที่เป็นเกษตรนั้นจะอยู่ในราศีกรกฎซึ่งเป็นแม่ธาตุน้ำ ธาตุน้ำนี้ท่านเปรียบเหมือนอารมณ์ความนึกคิด น้ำนั้นจะมาลักษณะการไหลไปสู่และรวมอยู่ในระดับเดียวกัน เช่นเดียวกันกับอารมณ์แปรเปลี่ยนได้ ทั้งในรูปของความรู้สึกรวดเร็ว ความคิดความใฝ่ฝัน ความทรงจำเป็นต้น
แต่จันทร์จรในราศีมีนนั้นก็มีราหูที่จรเป็น ๑๑ ในราศีพฤษภนะคะ ก็อาจจะเกิดทุกข์โทษกับเจ้าชะตาเพราะความใจดีใจอ่อน มักมีผู้อื่นกระทำ ให้เจ้าชะตาเป็นแพะรับบาปได้ค่ะ ยิ่งช่วงเล็งกันหรือกุมกันกับราหูจรนั้นเป็นช่วงเวลาที่ต้องระวังการขัดแย้ง หลบเลี่ยงการปะทะ โดยยึดคติที่ว่า อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมาเอาไว้ให้ดี มิฉะนั้นจะขายหน้าค่ะ
ส่วนเกตุจรนั้นก็เล็งจันทร์จร จะมีเหตุให้ใช้จ่ายเงินทองเปลือง,หรือ ทำให้ศัตรูอิจฉาริษยา หรือให้โทษลับหลัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ยังมีดาวพฤหัสบดีจรอยู่ในระยะที่ยังให้ผลดีกับดาวจันทร์จรทำให้มีไหวพริบดีหรือเด่นเรื่องวิชาการหรือ ชอบช่วยการกุศลหรืองานการสาธารณะประโยชน์
ประวัติพระปางประทานอภัย
พระเจ้าอชาตศัตรู พระราชโอรสของพระเจ้าพิมพิสาร แห่งกรุงราชคฤห์ ถูกพระเทวทัตยุยงให้ปลงพระชนม์พระราชบิดา แล้วขึ้นครองราชแทน พระเจ้าอชาตศัตรูยังทรงช่วยสนับสนุนพระเทวทัตส่งนายขมังธนูไปปลงพระชนม์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่ไม่สำเร็จ ภายหลังจากที่พระมเหสีคลอดพระราชโอรสจึงมีความดีใจเป็นล้นพ้นและสำนึกตัวว่าได้ทำบาปมหันต์ที่ปลงพระชนม์ชีพพระราชบิดา จึงเสด็จมาสารภาพความผิดและขอพระราชทานอภัยโทษกับพระพุทธองค์ ขอถึงพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งและทรงบำรุงพระพุทธศาสนา และอุปถัมภ์ในการทำสังคายนาพระไตรปิฎก ครั้งที่ ๑
ปางประทานอภัย เป็นพระพุทธรูปลักษณะยกพระหัตถ์เบื้องขวาตั้งหันฝ่าพระหัตถ์ไปข้างหน้า มีทั้งท่ายืน ท่าเดิน และท่าขัดสมาธิ หรือเรียกปางลักษณะนี้ว่าเป็น "ปางห้ามญาติ" หรือ "ปางโปรดสัตว์"
สำหรับท่าประทับยืนของปางประทานอภัยแตกต่างกับปางประทานพรที่พระหัตถ์ข้างที่ทรงผายออก โดยปางประทานพรพระหัตถ์ข้างที่ทรงยกขึ้นจะงอปลายนิ้วลงมาเล็กน้อยหรือทรงทำมุทรา (สัญลักษณ์มือ) แต่ปางประทานอภัยจะทรงตั้งนิ้วขึ้นเสมอกันและมิทรงงอปลายนิ้วลงเลย (ขอบคุณข้อมูลจากวิกิพีเดีย ค่ะ)
จะเห็นได้ค่ะว่าการให้อภัย นั้นเป็นการให้ที่ยังประโยชน์ทั้งสองฝ่าย คือผู้ให้และผู้รับ โดยทำให้ผู้ให้มีจิตใจที่ได้หลุดพ้นจากการถูกครอบงำของความโกรธเกลียดอคติ การตัดตัวทุกข์ออกไปนั้นยากแต่หากผู้ให้อภัยสามารถทำได้จะส่งเสริมให้ตัดเครื่องเศร้าหมองทั้งหลายออกและจิตใจก็จะกลับมาเต็มเปี่ยมไปด้วยความสงบสันติค่ะ
ขอบคุณค่ะ#zodietcwise
และฝากอ่านเรื่องต่างๆในบล็อกด้วยค่ะ
หากสนใจดูดวง อินบ็อกซ์มาได้เลยค่ะ หรือจะนัดให้ทำนายทางไลน์ก็ได้ค่ะ https://line.me/ti/p/DxUHcrL7-M
ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริกบุตร, อาจารย์ศ.ดุสิต,อาจารย์พันเอก(พิเศษ)เอื้อน มนเทียรทอง,อาจารย์ดำริห์ ไตรรัตน์ รวมทั้งหลายท่านอาจารย์และบรมครูโหราศาสตร์ที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น