#ราหูโคจรย้ายเข้าพฤษภ

#ราหูโคจรย้ายเข้าพฤษภ

วันที่๑๐ กันยายน นี้เวลาประมาณ๐๒.๕๑ น.   จะย้ายจากราศีมิถุนเข้าราศีพฤษภและอยู่จนถึงวันที่๓๐ มีนาคม๒๕๖๕ ประมาณ๐๒.๔๒น. 

ราหูในทางโหราศาสตร์ไทยเรียกขาน เป็น ราหู, อสูร,อสุระ,อสุรินทร์,ขุนมาร,ขุนยักษ์,สุหิตา,สุตา พูดถึงราหู๘ ต้องพูดถึงคราส และดาวอาทิตย์และดาวจันทร์ 

เพราะราหูเป็นเพียงจุดอุปราคาซึ่งเป็นจุดที่ทำให้บังเกิดเงามืดที่เกิดสุริยุปราคาหรือจันทรุปราคาขึ้น ณที่ใด ที่นั้นจะมีเงามืดปกคลุมทำให้อยู่ในสภาพมัวไม่แจ่มใส ลักษณาการของราหูจึงเป้นความมืดเปรียบดังอวิชาบดบังอยู่ในบุคคล ทำให้เกิดโมหะจริตและอกุศลจริต มัวเมาไปในอารมณ์ต่างๆ จึงเรียกว่าราหูมีลักษณะเบียฬเรือนนั้น ท่านอาจารย์ทางโหราศาสตร์จึงใช้คำว่า" ทายมัวเมาให้ทายราหู  "

ดวงชะตาใดมีราหูกุมลัคน์จึงมักจะมีการทายประกอบในแง่ของความมัวเมาลุ่มหลงประกอบด้วย แม้ว่าตำแหน่งราหูจะเด่น ให้คุณ เป็นคนที่มีใจคอบึกบึน กล้ายอมเสี่ยงอันตราย โดยที่ว่าจะมีอารมณ์หมกมุ่มจดจ่อกับสิ่งที่จะลงมือทำ ครั้นแล้วก็จะเบื่อหน่ายจืดจางเลิกราไป อ้อ ชอบฟังการเยินยอสรรเสริญด้วยค่ะ ที่ว่ากล้านั้นคือ ชอบลุย บ้าบิ่น

ราหู๘ จรเวียนขวา คือยกจากมิถุนโดยสถิตย์ ประมาณ ๑.๕ปีแล้วย้ายเข้าสู่ราศีพฤษภนั้นตำแหน่งถือเป็น"นิจ"  ราหูเคยอยู่ในราศีพฤษภมาแล้วเมื่อปี ๔กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ ถึง วันที่ ๒๔ สิงหาคม๒๕๔๖(ช่วง๑๕.๐๐) ค่ะ

ลองกลับไปดูเหตุการณ์ในชีวิตช่วงปีครึ่งนั้นก้อได้ว่ามีเหตุการณ์ดีร้ายประการใดบ้างค่ะ 

มีโคลงกลอนกล่าว เกี่ยวข้องกับ ราหูในเรือนพฤษภว่า

                   อสุนรินทร์มาตร์แม้น กุมลัคน์

                   เมษพฤษภตามจักร   เลิศแล้ว

                 ชาตินั้นย่อมทรงศักดิ์  ยศยิ่งหมื่นหนา

                 เป็นทหารชาญแกล้ว  ยุทธกล้ากลางณรงค์ฯ

ราศีพฤษภถือเป็นราศีอุจจ์ของดาวจันทร์ที่เป็นบ่อเกิดราหู ในกรณีราหูสถิตย์กุมลัคนาในดวงชะตาก็ย่อมส่งผลดี มีความแกล้วกล้าในการสงคราม 

เมื่อราหูเป็นนิจในราศีพฤษภต้องพิจารณาดาวศุกร์ ๖ เจ้าเรือนเกษตรและดาวจันทร์๒ อุจจ์ของราศีพฤษภและอังคาร๓เจ้าเกษตรราศีอุจจ์ของราหูประกอบกันค่ะดังนี้คือ

๑.ให้พิจารณาศุกร์ ๖ กับจันทร์๒ในชะตานั้นมีดวงใดดวงหนึ่งอยู่ในราศีเรือนเกณฑ์เป็น ๑,๔,๗,๑๐ กับลัคนาหรือเปล่า หากมีศุกร์หรือจันทร์ตั้งอยู่เป็นเกณฑ์กับลัคนาจะทำให้ราหูเป็นนิจนั้นคลายโทษลง

๒.ถ้าศุกร์๖ และจันทร์๒ ในชะตานั้นตั้งอยู่เป็นเกณฑ์ซึ่งกันและกัน ๑,๔,๗,๑๐ แก่กัน ราหูที่เป็นนิจนั้นก็ไม่ให้โทษ

๓.ราหู๘ ที่เป็นนิจนั้นหากมีกระแสสัมพันธ์ที่ดีจากศุกร์ ๖และ จันทร์ ๒นั้น จะเป็นการร่วมหรือการเล็ง ราหู๘นั้นก็ไม่ให้โทษ

๔.หากอังคาร๓ในชะตานั้นตั้งอยู่ในภพเกณฑ์คือ ๑,๔,๗,๑๐กับลัคนาหรือจันทร์ ราหูนั้นก็ไม่ให้โทษ

๕.หากราศีพฤษภเป็นราศีภพเกรฑ์กับลัคนาหรือจันทร์ คือเป็นราศีที่ตรงกับภพ ๑,๔,๗,๑ๆจากลัคนาหรือจันทร์และราหูมีองศาระดับเดียวกับลัคนาหรือจันทร์ ราหูนั้นก็ไม่ให้โทษ

แต่กระนั้นก็ตามในการเดินจรนั้นต้องพิจารณาถึงดาวเคราะห์เดิมในชะตาเพราะกระแสสัมพันธ์ของดาวราหูจรในชะตานั้นจะมีแตกต่างกัน คือ 

๑.ราหูโคจรทับอาทิตย์ กรณีโคจรทับหรือถึงหรือเล็งอาทิตย์เดิมในชะตาและได้เกิดอุปราคาขึ้น หากมีจุดคราสเกิดขึ้นมักจะแสดงผลทางเดือดร้อนเป็นอุปสรรคขัดขวางการที่จะได้ลาภผล ศัตรูจะก่อกวนให้ได้รับความเดือดร้อนหรืออาจจากที่อยู่ไปแต่ผู้เดียวทิ้งบุตรภรรยาไว้เบื้องหลัง  โดยต้องพิจารณาดูจุดองศาของคราสหากมีเชิงมุม๐ องศากับอาทิตย์เดิมคือทับอาทิตย์เดิมพอดี หรือมีเป็น๑๘๐ องศากับอาทิตย์เดิม จึงจะมีผลร้าย ซึ่งจะมีระยะไม่ต่ำกว่า๖เดือน หากมีคราสแต่คราสนั้นเกิดมีองศาห่างจากอาทิตย์เดิมหากก็ไม่ค่อยจะมีผลรุนแรงเท่าใด  นอกจากนี้พื้นชะตาเดิมนั้นหากราหู ๘ กับดาวอาทิตย์ ๑ในดวงเดิมเบียนกันหรือไม่ คำว่าการเบียนคือ ๖,๘,๑๒ ต่อกันเมื่อมาทับกันเข้าก็จะเกิดความเดือดร้อน

๒,ราหูโคจรทับจันทร์ กรณีโคจรทับหรือถึงหรือเล็งจันทร์เดิมในชะตา หลักการทำนายคล้ายดาวอาทิตย์๑ ทำนายได้สองแบบคือ กรณีจันทร์กับราหูไม่เบียนกันเมื่อมาทับกันไม่มีคราสหรือองศาของคราสไม่ไปถูกดาวจันทร์ จะมีศัตรูภายหลังกลายเป็นมิตรนำลาภมาให้ ส่วนกรณีจันทร์กับราหูทับหรือเล็งกันแล้วเกิดคราสอาจจะมีผลร้ายในเรื่องสุขภาพความเจ็บป่วยหรือ ความยุ่งยากเรื่องการเงิน

๓.ราหูโคจรทับอังคาร เป็นระยะที่ต้องกินของเก่าใช้ทรัพย์สินเดิม ถ้าในแง่การงานต้องแบกรับงานและภาระเพิ่มขึ้น และให้ระวังเรื่องอัคคีภัย เพราะต่างเป็นดาวบาปเคราะห์ ธาตุลม เมื่อมาจรต้องกันต้องในธาตุดินยิ่งควรระมัดระวังในกรณีที่ตำแหน่งเดิมในชะตาเป็นตำแหน่งเบียนกัน๖,๘,๑๒ ต่อกัน เมื่อมีคราสเกิดขึ้นในราศีที่ดาวอังคารเดิมสถิตและราหูเข้าไปทับนั้นองศาของจุดคราสทับหรือเล็งอังคารเข้าพอดี ก็จะเกิดเรื่องเดือดร้อนไฟไหม้

๔.ราหูโคจรทับพุธ จะให้ผลเสียเมื่อราหูนั้นอยู่ในราศีที่ ๖,๘,๑๒ จากพุธเดิมเมื่อโคจรมาเจอพุธเข้าจะทำให้ต้องเคราะห์ภัย ทรัพย์สินเงินทองจะหมดไป หากพุธมีตำแหน่งที่สำคัญในชะตาอันได้แก่เป็นเจ้าเรือนเกษตรราศีที่ลัคนาหรือจันทร์ในชะตาสถิตย์ คือเจ้าเรือนลัคน์ หรือเจ้าเรือนจันทร์ เมื่อราหูโคจรมาทับและบังเกิดมีคราสขึ้นจุดองศาคราสนั้นจะต้องทับหรือเล็งพุธพอดี ถ้าหากดวงชะตาในขณะนั้นปราศจากกำลังต้านทานผลร้ายจึงจะมี

๕.ราหูโคจรทับพฤหัสบดี ต้องมีตำแหน่งเบียนกัน คือราหูจะต้องไม่เป็น๖,๘,๑๒ กับพฤหัสบดีในดวงชะตาเดิม เมื่อราหูโคจรมาต้องจึงจะเกิดผลดังกล่าวนี้ หากดาวพฤหัสบดีในชะตานั้นเป็นดาวเจ้าลัคน์หรือเจ้าเรือนจันทร์ เมื่อราหูมาทับและเกิดคราสขึ้น องศาของคราสนั้นมีระยะเชิงมุมเป็น๐องศากับพฤหัสบดีเดิมในชะตานั้นหรือเป็น๑๘๐องศา คือทับหรือเล็งกันได้องศาพอดีผลร้ายจึงจะมี

๖.ราหูโคจรทับศุกร์ เช่นเดียวกับดาวอื่นราหูนั้นจะต้องอยู่ในราศีที่๖,๘,๑๒จากศุกร์ คืออยู่ในสภาพเบียนกันมาแต่เดิม หรือมิฉะนั้นขณะที่ราหูเข้าทับศุกร์นั้น ได้ทำให้บังเกิดคราสขึ้น จุดคราสนั้นจะต้องมีองศาร่วมหรือเล็งกับศุกร์เดิมพอดีขะเกิดผลร้ายในแง่ความวุ่นวายในบ้านครอบครัว

๗.ราหูโคจรทับเสาร์   อาจารย์ท่านว่าจะเกิดลาภผลเงินทอง จะได้เมียสาวแต่อีกตำราว่ามิตรสหายจะให้ลาภแต่ระวังเจ็บป่วยให้ระวังการกินอาหาร,อย่ากินเนื้อสัตว์มากนัก   ราหูโคจรทับเสาร์ต้องไม่เบียนกันคือไม่เป็น๖,๘,๑๒ต่อกัน และต้องคำนึงเมื่อโคจรมาทับเสาร์แล้วบังเกิดคราสหรือไม่ องศาของคราสนั้นมีระยะเชิงมุมเป็น๐องศากับเสาร์เดิมในชะตานั้นหรือเป็น๑๘๐องศา คือทับหรือเล็งกันได้องศาพอดีอย่างนี้จะทำให้เกิดทุกข์โทษยิ่งหากเป็นตำแหน่งลัคนาหรือจันทร์ในราศมังกรหรือกุมภ์จะมีผลร้ายมาก

๘.ราหูทับราหูเดิม ราหูที่จรมาทับราหูเดิมและก่อให้เกิดผลร้ายนั้นราหูเดิมต้องเป็นพินทุบาทว์หรือราหูที่มิได้รับแสงจากศุภเคราะห์เลยเมื่อมาทับจึงจะเกิดผลร้าย

๙.ราหูทับลัคนา ให้ระวังเรื่องความใจอ่อนสงสารคน ขืนไปรับปากช่วยเหลือธุระใครภายหลังตัวเองจะได้รับความเดือดร้อน จังหวะราหูเข้าทับหรือเล็งควรจะต้องระวังเรื่องการเกิดคราสและองศาจุดคราส หากไปพ้องกับองศาลัคน์หรือเล็งลัคน์พอดี หากเจ้าเรือนลัคน์มีจังหวะเสื่อมและดาวดีที่จะช่วยเหลือในชะตาไม่มีจะให้ผลร้ายมาก การโคจรของดาวเคราะห์ที่ต้องกัน ต้องพิจารณาดูระยะห่างระหว่างองศาดาวเดิมในชะตากับระยะขององศาของดาวเคราะห์ที่โคจรจะต้องมีระยะห่างเริ่มต้น ๓องศาเป็นจุดเริ่มที่จะเกิดผลและผลจะรุนแรงตอนที่ทับกับสนิท จนโคจรผ่านไปพ้นจากจุดทับกันอีก๓องศาจึงจะคลายไป 

ดังนั้นโดยสรุปการทำนายผลการที่ราหูโคจรนั้นต้องพิจารณา

๑. มีดาวอะไรอยู่ในภพนี้ที่ราหูจะจรเข้าบ้าง ในบางตำราเวลาดูดวงชะตาเมือ่ทราบลัคนาแล้วให้ดูว่าลัคนานั้นมีอุดมเกณฑ์หรือองค์เกณฑ์ซึ่งกรณีนี้คือ ลัคนาในราศีกิฎะผลร้ายของราหูจะลดลงไป อันนี้ต้องลองพิจารณาดูเอาค่ะ  หากมีผิดพลาดขออภัยไว้ด้วยค่ะ

๒. มีดาวอะไรให้แสงถึงภพนี้ที่ราหูจะจรเข้าบ้าง รวมทั้งการเกิดคราสและองศาของคราส

๓.กรณีเป็นราศีพฤษภนั้นดาวเกษตรคือดาวศุกร์๖ เดิมอยู่ตำแหน่งใดเข็มแข็งหรือไม่และหากโคจรไปได้ตำแหน่งที่ดี ดาวราหูก็ไม่ได้ให้ผลร้าย นอกจากนั้นยังต้องพิจารณาดาวอาทิตย์,ดาวจันทร์และดาวอังคารเป็นสำคัญ

๔,ในบางตำราว่าเรื่องของทักษานั้นกรณีหากราหูได้ตำแหน่งของกาลกิณี ในปีที่การเดินจรมาเป็นนิจ ผลร้ายจะลดลง ยิ่งหากกุมเป็นอริ,มรณ.วินาสน์ ความเป็นกาลกิณีจะหมดอำนาจลง อันนี้ต้องลองพิจารณาดูเอาค่ะ  หากมีผิดพลาดขออภัยไว้ด้วยค่ะ

อย่างไรก็ตามโอกาสผลเสียก็ยังคงมีหากเกิดคราสในบางช่วง เพราะราหูโคจรปีกว่า อาจจะไม่ได้มากมายหรือเกิดบ้างนะคะ เมื่อทราบแล้วก็ขอให้ยึดหลักการระมัดระวังการดำเนินชีวิต หลักการ"ใช้วิจารณญาณ"และความรอบคอบโดยเฉพาะผู้มีตำแหน่งของราหูเป็นสองในชะตาที่เรียกว่า ราหูค้นทรัพย์ คือมีการเกิดขึ้นหรือหมุนเวียนเข้าของการเงินหรือของทรัพย์แต่อาจจะมีการใช้จ่ายออกไปในหลายเรื่อง เนื่องจาก สถานการณ์โควิตที่เพิ่งเริ่มฟื้นค่ะ


สิ่งศักดิ์สิทธิ์แนะนำ เพื่อสักการะบูชา (ในเรื่องนี้ขึ้นกับแต่ละบุคคลค่ะ เท่าที่มีความศรัทธาเพราะต้องมีกำลังทรัพย์และเวลาที่จะไปทำความเคารพสักการะนะคะ)

๑)พระพุทธรูปปางปาลิไลย์เป็นพระปางประจำวันเกิดของคนเกิดวันพุธกลางคืน หรือเมื่อพระราหูเสวยอายุ เป็นพระพุทธรูปอยู่อิริยาบถประทับนั่งบนก้อนศิลา พระบาททั้งสองวางอยู่บนดอกบัว พระหัตถ์ซ้ายวางคว่ำบนพระชานุ (เข่า) พระหัตถ์ขวาวางหงายบนพระชานุ มีรูปช้างหมอบใช้งวงจับกระบอกน้ำ และ อีกด้านหนึ่งมีลิงถือรวงผึ้งถวาย

ปาลิไลยก์ มาจากภาษาบาลี ปาลิเลยยกะ หมายถึงชื่อป่าแห่งหนึ่งที่พระพุทธเจ้าเสด็จอาศัยอยู่ และเป็นชื่อช้างซึ่งอยู่ในที่นั้นด้วย

พระคาถาบูชา สวด 12 จบ เริ่มตั้งนะโม 3 จบ
กินนุ สันตะระมาโน วะ ราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโบ อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฎฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติฯ

สถานที่ เช่น พระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ วัดป่าเลไลยก์ จังหวัดสุพรรณบุรี

๒) พระปางโปรดอสุรินทราหู อยู่ในอิริยาบถ นอนตะแคงขวา พระบาททั้งสองข้างซ้อนทับเสมอกัน พระหัตถ์ซ้ายทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาตั้งขึ้นรับพระเศียรและมีพระเขนยรองรับ บางแบบพระเขนยวางอยู่ใต้พระกัจฉะ (รักแร้) ลักษณะเดียวกับปางปรินิพพานและางทรงพระสุบิน หรือเรียกโดยทั่วไปว่าพระปางไสยาสน์
อ่านเพิ่มเติมได้ใน บทความตอน #ปางโปรดอสุรินทราหู
สถานที่ เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร หรือวัดโพธิ์

๓) ไหว้พระราหู ได้ที่วัดต่างๆค่ะ

          ส่วนใหญ่ทางวัดจะมีการเตรียมของไหว้ราหู ในภาคพิธีกรรม เนื่องจากดาวราหูมีเลข ๘ เป็นสัญลักษณ์ และมีกำลังเท่ากับ ๑๒ ดังนั้นของไหว้ราหูควรจะเป็นจำนวนตามเลขหรือกำลัง  และต้องประกอบไปด้วยของคาว ของหวาน ผลไม้ และเครื่องดื่มที่มีลักษณะเป็นสีดำที่ปรุงสุกแล้ว สามารถนำมารับประทานหรือดื่มได้ ต้องเตรียมน้ำเปล่า ๑ ถ้วย พร้อมดอกไม้สีดำ และธูปตามจำนวนของที่ไหว้ด้วยนะคะ เช่น หากไหว้ ๘อย่าง/ชนิด ก็ใช้ธูป ๘ ดอก (หากสามารถหาธูปดำได้)

คำถวายของบูชาพระราหู

“นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง สักการะวันทะนัง สูปะพะยัญชะนะ

สัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง

สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ
ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ
สุขายะ พระราหูเทวา มะหิทธิกา
เตปิอัมเห อะนุรัก ขันตุ
อาโรคะ เยนะ สุเขนะจะ”

“ข้าแต่พระราหู เทพแห่งโชคลาภอันศักดิ์สิทธิ์ที่สูงสุด ข้าขอบูชาท่านด้วยของดำ (8 หรือ 12 อย่าง) ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากโรคภัย และอันตรายใด ๆ ขอให้ท่านประทานพร โชคลาภ ความร่ำรวย ทั้งหลายทั้งปวง ให้แก่ข้าพเจ้า ด้วยเทอญ..”

คาถาบูชาพระราหู (ท่อง 12 จบ)

“คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”

จากนั้นกล่าว ชื่อ นามสกุล ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (๘ หรือ ๑๒ อย่าง) ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรงปราศจากโรคร้ายใดๆ ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานพรโชคลาภและความสำเร็จแก่ข้าพเจ้า อธิษฐานเรื่องอื่นๆ ที่ปรารถนา...

คาถาลาของไหว้ตามวัด ศรีษะทอง

          เมื่อธูปใกล้หมดให้ลาของไหว้ และสวด เสสัง มังคะลา ยาจามิ จากนั้นสามารถนำของไหว้มารับประทานเพื่อความเป็นสิริมงคลได้เลยค่ะ หรือจะนำไปอาบไปดื่มก็ได้ โดยก่อนรับประทานหรือนำไปดื่มไปอาบให้ท่องคาถา “คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”  

บทสวดบูชาพระราหู สวด๑๒จบ

“กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิสังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติกินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติสัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ”

หรือ สวดอิปิโสภควา พระราหู จมัส์มิง จ พุท์ธคุณัง จธัมมคุณัง จสังฆคุณัง สัพพทุก์ขัง สัพพโรคัง วิวัชชเย สัพพลาภัง ภัวนตุเมฯ  โดยมีคาถาอิติปิโส๘ทิศนี้บทพระนารายณ์พลิกแผ่นดินเป็นคาถาประจำราหูคือ “คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ”  

ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์เทพย์ สาริบุตรและอาจารย์ศ.ดุสิต ข้อมูลจากวิกีพีเดียรวมทั้งหลายท่านที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้ เชิญปรึกษาดวงชะตาติดต่อได้ทางไลน์ค่ะ ฝากกดชอบใจหรือติดตามเพจfacebook zodietcwise ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ







ความคิดเห็น