การเดินจรของดาวเคราะห์ช่วงมิถุนายน ๒๕๖๓
ในเดือนมิถุนายน ดาวเคราะห์ต่างๆ เช่น พระพฤหัสท่านเดินพักร์ อยู่มาเป็นระยะเวลาหนึ่งเวลา พร้อมทั้งพระเสาร์และพระศุกร์ การเดินพักร์ ใช้ตัวย่อ พ.ประกอบในการดูดาวโคจร ในปฎิทินโหราศาตร์ไทย นั้น ถือว่าเป็นการโคจรผิดปกติ มีการเคลื่อนตัวคือย้อนวิถีปกติ หรือใช้ภาษาง่ายๆว่าเดินถอยหลัง เกิดการเลื่อนหรือเคลื่อนไปจากเดิมหรือการเปลี่ยนหลักเพื่อปฎิรูปหรือย้อนแก้ไขปรับโครงสร้างทั้งหมด มีดาวมฤตยูในราศีเมษเป็นโยคเกณฑ์สำคัญส่งกระแสถึงดาวทั้งสองทำให้เกิดการเหตุการณ์ประหลาดหรือโรคภัยอาเพทกระทันหันทันควัน มฤตยูนั้นบังคับให้การเปลี่ยนแปลงเกิดในวงขว้างเพราะทำมุมกับดาวใหญ่ทั้งสองดาว ดาวมฤตยูนั้นน่าจะมีความหมายเป็นเอกลักษณ์เพราะปกติมฤตยูจะทำให้ดาวดวงหรือภพนั้นๆมีนิสัยเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นจึงเรียกว่าการดับสูญเพื่อจะเกิดใหม่
แม้ว่าจะยังอยู่ในราศีมังกรแต่องศาของดาวพฤหัสท่าน ลดลงพร้อมทั้งดาวเสาร์ก้อเข้าในลักษณะเช่นกัน และการเดินย้อนกลับมาที่ราศีธนูเริ่มมาตั้งแต่ วันที่ ๑๒ พ.ค. จากนั้นโคจรพักร์องศา ข้ามราศีกลับสู่ราศีธนูในวันที่ ๑๗ ก.ค. และ โคจรเดินหน้าวันที่ ๒๑ ก.ย. ส่วนดาวเสาร์นั้นเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๕ พ.ค. โคจรพักร์องศาข้ามราศีกลับสู่ราศีธนู ในวันที่ ๑๒ ก.ค. และ โคจรเดินหน้าวันที่๑๗ ก.ย.
ส่วนดาวศุกร์นั้นอยู่ในราศีมิถุนแต่ลดองศาและจะเดินย้อนไปที่ราศีพฤษภเช่นกันในวันที่ ๘ มิ.ย. – ๕ ก.ค. หลังจากนั้นโคจรมนฑ์ ถึงวันที่ ๒๘ ก.ค. หลังจากนั้นจะโคจรเดินหน้าเป็นปกติ
และดาวพุธ เองจะเริ่มพักร์วันที่ ๗ มิ.ย. โคจรพักร์องศาข้ามราศีกลับสู่ราศีพฤษภ วันที่ ๒๑ มิ.ย. และ โคจรเดินหน้าในวันที่ ๒๗ มิ.ย. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ จะเกิดจันทรคราสเงามัว(ช่วงเที่ยงคืนของวันที่๕ มิย เริ่มเกิด)ในวันที่๖ มิถุนายน ในราศีพิจิก ดาวที่โยกย้ายซึ่งอยู่ใกล้กับคราสเงามัวคือ ดาวพุธ ซึ่งมีผลต่อ การเจรจรา สื่อสาร และ ดาวศุกร์ มีผลต่อ การงาน การเงิน ส่วนในวันที่ ๒๑ มิถุนายน จะมีดาวอาทิตย์และจันทร์ในราศีมิถุน เป็นสุริยคราส ในทางโหราศาสตร์ให้รู้จัก ระมัดระวังในการใช้ชีวิต การมีสติการทำบุญหรือสวดมนต์ไหว้พระ จะช่วยเรื่องการมีสมาธิทำให้ไม่ประมาทในการตัดสินใจทำสิ่งใด รวมทั้งการดูแลสุขภาพอนามัยค่ะ
ส่วนดาวเกตุจะย้ายเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ ๘ มิถุนายน ไปอยู่ในเรือนของพระพฤหัสบดี จนถึง๓ สิงหาคมย้ายไปอยู่ราศีกุมภ์
เนื่องจากดาวมีการเดินโคจรพักร์หลายดวง ดาวราหูเองแม้จะไม่มีการพักร์แต่จะโคจรย้ายเข้าราศีพฤษภในวันที่ ๑๐ กันยายนจนปลายปี ๒๕๖๓ มักจะเรียกตำแหน่งนี้ว่าค้นทรัพย์หากมีลัคนาอยู่ราศีเมษเช่นดวงเมืองกรุงเทพ แต่หากมีลัคนาอื่นราหูในตำแหน่งนี้ก็คือเป็นนิจ ทำมุม ๓๐องศากับมฤตยูในราศีเมษ
ดาวอังคารเจ้าเรือนราศีเมษหรือพิจิกเองจะมีการ โคจรมนฑ์ ในเมษ(เริ่มโคจรช้าจนเกือบหยุดนิ่ง) ในวันที่ ๒๖ ก.ค. ก่อนพักร์องศาในราศีเมษวันที่ ๑๘ ก.ย. และ โคจรพักร์องศาข้ามราศีกลับสู่ราศีมีน วันที่ ๙ ต.ค. – ๕ พ.ย. หลังจากนั้นโคจรมนฑ์ ถึงวันที่ ๒๕ ธ.ค. หลังจากนั้นจะโคจรเดินหน้าเป็นปกติ
หากกำลังศึกษาเพื่อนำไปใช้ดูดวงตัวเอง ควรจะเขียนดาวจรทับลงวงนอกของดวงชะตาแล้วดูว่าลัคนาอยู่ราศีอะไรมีดาวอะไรเป็นเจ้าเรือนลัคนา และเจ้าเรือนเกษตรเรือนใน ต้องนำภพและดาวมาแปลความหมายทั้งเกษตรเรือนในและเรือนนอกที่ดาวนั้นอยู่คือ จังหวะที่ ๑.ให้ดูว่าดาวเกษตรภพนั้นไปสถิตในภพอะไรและดาวอะไรเป็นเจ้าของภพนั้น จังหวะที่๒.ให้ดูต่อไปว่าดาวเจ้าเรือนนั้นไปสถิตภพอะไรและมีดาวอะไรเป็นเกษตร โดยทั้งสอง๒จังหวะจะต้องสังเกตตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ว่าเป็นตำแหน่งเข็มแข็งหรือไม่และดาวกระทบกันตามที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้าค่ะ หากเชี่ยวชาญมากขึ้นก้ออาจจะนำเอาเรื่องของทักษาและทักษาจรมาประกอบ รวมทั้งหากสามารถพิจารณาหรือนำข้อมูลดวงเมืองมาประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ
ผู้เขียนเองก็กำลังศึกษาเพิ่มเติมในวิชาโหราศาสตร์และติดตามดูเหตุการณ์ต่างๆเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในวิชารวมทั้งการหาแนวทางให้ตนเองตลอดจนการหาความรู้เพิ่มเติมในทางธรรมะเพื่อทำจิตใจให้สงบเวลาพานพบเรื่องราวแปลกประหลาดร้ายหรือไม่ค่อยจะดีค่ะ
ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์ทั้งหลายทั้งที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้ เชิญปรึกษาดวงชะตาติดต่อได้ทางไลน์ค่ะ ฝากกดชอบใจหรือติดตามเพจfacebook zodietcwise ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ในเดือนมิถุนายน ดาวเคราะห์ต่างๆ เช่น พระพฤหัสท่านเดินพักร์ อยู่มาเป็นระยะเวลาหนึ่งเวลา พร้อมทั้งพระเสาร์และพระศุกร์ การเดินพักร์ ใช้ตัวย่อ พ.ประกอบในการดูดาวโคจร ในปฎิทินโหราศาตร์ไทย นั้น ถือว่าเป็นการโคจรผิดปกติ มีการเคลื่อนตัวคือย้อนวิถีปกติ หรือใช้ภาษาง่ายๆว่าเดินถอยหลัง เกิดการเลื่อนหรือเคลื่อนไปจากเดิมหรือการเปลี่ยนหลักเพื่อปฎิรูปหรือย้อนแก้ไขปรับโครงสร้างทั้งหมด มีดาวมฤตยูในราศีเมษเป็นโยคเกณฑ์สำคัญส่งกระแสถึงดาวทั้งสองทำให้เกิดการเหตุการณ์ประหลาดหรือโรคภัยอาเพทกระทันหันทันควัน มฤตยูนั้นบังคับให้การเปลี่ยนแปลงเกิดในวงขว้างเพราะทำมุมกับดาวใหญ่ทั้งสองดาว ดาวมฤตยูนั้นน่าจะมีความหมายเป็นเอกลักษณ์เพราะปกติมฤตยูจะทำให้ดาวดวงหรือภพนั้นๆมีนิสัยเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นจึงเรียกว่าการดับสูญเพื่อจะเกิดใหม่
แม้ว่าจะยังอยู่ในราศีมังกรแต่องศาของดาวพฤหัสท่าน ลดลงพร้อมทั้งดาวเสาร์ก้อเข้าในลักษณะเช่นกัน และการเดินย้อนกลับมาที่ราศีธนูเริ่มมาตั้งแต่ วันที่ ๑๒ พ.ค. จากนั้นโคจรพักร์องศา ข้ามราศีกลับสู่ราศีธนูในวันที่ ๑๗ ก.ค. และ โคจรเดินหน้าวันที่ ๒๑ ก.ย. ส่วนดาวเสาร์นั้นเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๕ พ.ค. โคจรพักร์องศาข้ามราศีกลับสู่ราศีธนู ในวันที่ ๑๒ ก.ค. และ โคจรเดินหน้าวันที่๑๗ ก.ย.
ส่วนดาวศุกร์นั้นอยู่ในราศีมิถุนแต่ลดองศาและจะเดินย้อนไปที่ราศีพฤษภเช่นกันในวันที่ ๘ มิ.ย. – ๕ ก.ค. หลังจากนั้นโคจรมนฑ์ ถึงวันที่ ๒๘ ก.ค. หลังจากนั้นจะโคจรเดินหน้าเป็นปกติ
และดาวพุธ เองจะเริ่มพักร์วันที่ ๗ มิ.ย. โคจรพักร์องศาข้ามราศีกลับสู่ราศีพฤษภ วันที่ ๒๑ มิ.ย. และ โคจรเดินหน้าในวันที่ ๒๗ มิ.ย. เป็นต้นไป
นอกจากนี้ จะเกิดจันทรคราสเงามัว(ช่วงเที่ยงคืนของวันที่๕ มิย เริ่มเกิด)ในวันที่๖ มิถุนายน ในราศีพิจิก ดาวที่โยกย้ายซึ่งอยู่ใกล้กับคราสเงามัวคือ ดาวพุธ ซึ่งมีผลต่อ การเจรจรา สื่อสาร และ ดาวศุกร์ มีผลต่อ การงาน การเงิน ส่วนในวันที่ ๒๑ มิถุนายน จะมีดาวอาทิตย์และจันทร์ในราศีมิถุน เป็นสุริยคราส ในทางโหราศาสตร์ให้รู้จัก ระมัดระวังในการใช้ชีวิต การมีสติการทำบุญหรือสวดมนต์ไหว้พระ จะช่วยเรื่องการมีสมาธิทำให้ไม่ประมาทในการตัดสินใจทำสิ่งใด รวมทั้งการดูแลสุขภาพอนามัยค่ะ
ส่วนดาวเกตุจะย้ายเข้าสู่ราศีมีนในวันที่ ๘ มิถุนายน ไปอยู่ในเรือนของพระพฤหัสบดี จนถึง๓ สิงหาคมย้ายไปอยู่ราศีกุมภ์
เนื่องจากดาวมีการเดินโคจรพักร์หลายดวง ดาวราหูเองแม้จะไม่มีการพักร์แต่จะโคจรย้ายเข้าราศีพฤษภในวันที่ ๑๐ กันยายนจนปลายปี ๒๕๖๓ มักจะเรียกตำแหน่งนี้ว่าค้นทรัพย์หากมีลัคนาอยู่ราศีเมษเช่นดวงเมืองกรุงเทพ แต่หากมีลัคนาอื่นราหูในตำแหน่งนี้ก็คือเป็นนิจ ทำมุม ๓๐องศากับมฤตยูในราศีเมษ
ดาวอังคารเจ้าเรือนราศีเมษหรือพิจิกเองจะมีการ โคจรมนฑ์ ในเมษ(เริ่มโคจรช้าจนเกือบหยุดนิ่ง) ในวันที่ ๒๖ ก.ค. ก่อนพักร์องศาในราศีเมษวันที่ ๑๘ ก.ย. และ โคจรพักร์องศาข้ามราศีกลับสู่ราศีมีน วันที่ ๙ ต.ค. – ๕ พ.ย. หลังจากนั้นโคจรมนฑ์ ถึงวันที่ ๒๕ ธ.ค. หลังจากนั้นจะโคจรเดินหน้าเป็นปกติ
หากกำลังศึกษาเพื่อนำไปใช้ดูดวงตัวเอง ควรจะเขียนดาวจรทับลงวงนอกของดวงชะตาแล้วดูว่าลัคนาอยู่ราศีอะไรมีดาวอะไรเป็นเจ้าเรือนลัคนา และเจ้าเรือนเกษตรเรือนใน ต้องนำภพและดาวมาแปลความหมายทั้งเกษตรเรือนในและเรือนนอกที่ดาวนั้นอยู่คือ จังหวะที่ ๑.ให้ดูว่าดาวเกษตรภพนั้นไปสถิตในภพอะไรและดาวอะไรเป็นเจ้าของภพนั้น จังหวะที่๒.ให้ดูต่อไปว่าดาวเจ้าเรือนนั้นไปสถิตภพอะไรและมีดาวอะไรเป็นเกษตร โดยทั้งสอง๒จังหวะจะต้องสังเกตตำแหน่งของดาวพระเคราะห์ว่าเป็นตำแหน่งเข็มแข็งหรือไม่และดาวกระทบกันตามที่เคยเขียนไว้ก่อนหน้าค่ะ หากเชี่ยวชาญมากขึ้นก้ออาจจะนำเอาเรื่องของทักษาและทักษาจรมาประกอบ รวมทั้งหากสามารถพิจารณาหรือนำข้อมูลดวงเมืองมาประกอบการตัดสินใจด้วยค่ะ
ผู้เขียนเองก็กำลังศึกษาเพิ่มเติมในวิชาโหราศาสตร์และติดตามดูเหตุการณ์ต่างๆเพื่อเพิ่มพูนความรู้ในวิชารวมทั้งการหาแนวทางให้ตนเองตลอดจนการหาความรู้เพิ่มเติมในทางธรรมะเพื่อทำจิตใจให้สงบเวลาพานพบเรื่องราวแปลกประหลาดร้ายหรือไม่ค่อยจะดีค่ะ
ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และข้อมูลจากตำราอาจารย์ทั้งหลายทั้งที่ได้เอ่ยนามแล้วและไม่ได้เอ่ยนามด้วยความเคารพอย่างสูงไว้ณที่นี้ เชิญปรึกษาดวงชะตาติดต่อได้ทางไลน์ค่ะ ฝากกดชอบใจหรือติดตามเพจfacebook zodietcwise ด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น