ครุฑยุดนาค
ครุฑมีชื่อเรียกหลายนาม
- กาศยปิ (บุตรแห่งพระกัศยปมุนี)
- เวนไตย (บุตรแห่งนางวินตา)
- สุบรรณ (ผู้มีปีกอันงาม)
- ครุตมาน (เจ้าแห่งนก)
- สิตามัน (ผู้มีหน้าสีขาว)
- รักตปักษ์ (ผู้มีปีกสีแดง)
- เศวตโรหิต (ผู้มีสีขาวและแดง)
- สุวรรณกาย (ผู้มีกายสีทอง)
- คคเนศวร (เจ้าแห่งอากาศ)
- ขเคศวร (ผู้เป็นใหญ่แห่งนก)
- นาคนาศนะ (ศัตรูแห่งนาค)
- สุเรนทรชิต (ผู้ชนะพระอินทร์)
ตำนาน เรื่องการเกิดของครุฑกับนาคนั้นมีหลายเรื่อง แต่ที่นำมาเขียนเกี่ยวกับกลุ่มดาวเคราะห์ในชาติเวรคำกลอน ส่วนที่เกี่ยวข้องกับครุฑ คือ
ปฐมกัลป์อันว่าพระอาทิตย์ เรืองมหิทฤทธิรุทรเป็นครุฑพ่าห์
พฤหับดินทร์เป็นอินทรา พระเสาร์เป็นพระยาวาสุกรี
พระอังคารชาญสมรรถชัดสามารถ เชิงณรงค์องอาจเป็นราชสีห์
ตกลงกันสรรค์สร้างสระวาวี เป็นวาปีอมฤตกฤษฎา
จึงปรึกษาราหูเป็นคู่คิด จะรังสฤษฏ์วาปีศรีสง่า
ราหูว่าข้าได้อาศัยฟ้า จะปรารภถนาดินน้ำทำไมกัน
เทวดาทั้งนั้นจึงพลันสร้าง สำเร็จอย่างมโมนยิทธิ์ที่คิดฝัน
ให้ครุฑรักษาสัตปริภัณฑ์ ข้างไพรสัณฑ์หิมพานต์อังคารรักษ์
มหาสมุทรสุดเขตเกษตรนาค พระอินทร์ภาคพระสุเมรุเจนประจักษ์
วันหนึ่งครุฑไล่นาคจากที่พัก ไปพบยักษ์ราหูผู้มีฤทธิ์
ราหูคว้าคฑาไล่ไอ้ครุฑหยาบ น้ำใจบาปหมิ่กูผู้มีฤทธิ์
พระยาครุฑหนีหน้าปราวิต ไปหาองค์ทรงฤทธิ์อัมรินทร์
ราหูร้อนอ่อนใจใคร่ดื่มน้ำ จึงลงลำวาปีดื่มศรีสินธุ์
พระอินทร์จับจักรขว้างกลางเมฆิน ถูกอสุรินทร์กึ่งกายไม่วายวาง
เพราะดื่มน้ำอำมฤตสฤษฏ์แล้ว จึงผ่องแผ้วทั้งสองตัวหัวและหาง
เสาร์ราหูคู่มิตรสนิทนาง ครูราหูขาดกลางเหลือกึ่งเดียว
ราหูพ้องต้องอาทิตย์ตามติดผูก จะจากลูกจากทารสถานเปลี่ยว
อาทิตย์เสาร์ราหูเสาร์เข้าปีนเกลียว ทายอย่างเดียวมีศัตรูดูให้ดี
จากคำกลอนดังกล่าว แสดงผลไว้เด่นชัด ดาาวอาทิตย์นั้นสำแดงเป็นครุฑ ส่วนดาวเสาร์เป็นนาค อาทิตย์กับเสาร์นั้นเป็นศัตรูต่อกัน อาทิตย์เป็นมิตรกับครูคือดาวพฤหัส ดาวอาทิตย์ก็เป็นศัตรูกับราหู
ในเชิงทรรศนะสัมพันธ์ของดาวเคราะห์จะเป็นคู่ธาตุไฟกัน ซึ่งทรงไว้ด้วยความร้อน ความวุ่นวาย ความแสวงหา,การริเริ่มงาน ความเหน็ดเหนื่อยต่อสู้
ในคัมภีร์อสีติธาตุเรียกว่า สุริยะธาตุ ธาตุคือความร้อน อาทิตย์เป็นดาวยศศักดิ์ และเสาร์เป็นดาวความระแวงหมกมุ่นครุ่นคิดรวมกันแล้วจะจะเร่งเร้าแสวงหายศศักดิ์อำนาจยิ่งขึ้นและดาวเสาร์เป็นพี่เลี้ยงส่งเสริมให้ข้อคิด,ตักเตือนและการเตรียมการ อาทิตย์ก็จะได้ชื่อเสียงและตำแหน่งเลยทำให้มียศใหญ่โตจนได้เพราะราศีธาตุไฟมี เมษ,สิงห์,ธนู ดาวอาทิตย์มีตำแหน่งใหญ่กว่าดาวเสาร์ทั้งสิ้นเช่น อาทิตย์เป็นอุจ-มหาอุจ ราศีเมษและเสาร์เป้นนิจราศีเมษ เสาร์จึงถูกอาทิตย์บังคับได้และอาทิตย์กับเสาร์ยังอยู่ในราศีธาตุของตนเองอีกด้วยคือเมษธาตุไฟ เช่นนี้จึงเรียกว่าอสีติธาตุให้ผลเต็มที ถ้ากุมลัคนาจะนำให้เจ้าชะตาเป็นถึงอภิชาตบุตรได้
ดาวอาทิตย์กับเสาร์เป็น ดาวคู่แค้นคู่อาฆาตกันอย่างน่าดูตามตำนานชาติเวร เมื่อเป็นเกษตรต่างก็เล็งยันกันอยู่ เมื่อเป็นอุจจ์ก็เป็นอุจจ์ในราศีเพศชายด้วยกันพร้อมทั้งเล็งกันซึ่งได้กล่าวแล้ว การร่วมกันของดาวเคราะห์คู่นี้้ หากเป็นการกุมกันเป็นโยคในระยะเชิงมุม ๐ องศา ๙๐ องศา หรือ ๑๘๐ องศาจะทำให้สภาพของอาทิตย์เสื่อมลง
ดาวอาทิตย์กับเสาร์เป็น ดาวคู่แค้นคู่อาฆาตกันอย่างน่าดูตามตำนานชาติเวร เมื่อเป็นเกษตรต่างก็เล็งยันกันอยู่ เมื่อเป็นอุจจ์ก็เป็นอุจจ์ในราศีเพศชายด้วยกันพร้อมทั้งเล็งกันซึ่งได้กล่าวแล้ว การร่วมกันของดาวเคราะห์คู่นี้้ หากเป็นการกุมกันเป็นโยคในระยะเชิงมุม ๐ องศา ๙๐ องศา หรือ ๑๘๐ องศาจะทำให้สภาพของอาทิตย์เสื่อมลง
ในมุมอุจจ์เล็งอุจจ์ให้ผลดีแต่ ทำให้เป็นคนมีจิตใจเคร่งเครียด หาความสุขโดยแท้จริงไม่ได้ในชีวิต ในราศีที่๑๑ จากตำแหน่งของอาทิตย์ หากมีเสาร์เข้ามาอยู่ในราศีนั้น จะก่อให้เกิดความยุ่งยากทางการเงินนอกเสียจากว่ามีระยะเชิงมุมห่างกัน๖๐ องศาพอดี จัดว่าเป็นโยคที่ดี จึงพอระงับได้อาทิตย์กับเสาร์หากเป็นอุจจ์พร้อมกันมีระยะเชิงมุมเล็งกันพอดีถ้าเป็นดวงสตรีจะหาความสุขในชีวิตสมรสได้ยาก
อาทิตย์กับเสาร์ในชาตาใด ถ้าสถิตย์อยู่ในระยะเชิงมุมเป็นโยคดี เช่นห่างกัน ๖๐ องศา หรือ ๑๒๐ องศา จะช่วยให้เจ้าชะตามีความสามารถในด้านการครองชีพ ฐานะทางการเงินดีแต่มีเงินจากโยคอันเกิดจากเสาร์นี้เป็นไปอย่างกระเบียดกระเสียรเหนียวแน่น
เสาร์กับอาทิตย์เมื่อโคจรไปต้องกันคือเสาร์โคจรไปทับอาทิตย์เดิม หรืออาทิตย์โคจรไปทับเสาร์เดิมเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าทับอาทิตย์เดิม ถึงองศากันพอดี จะเป็นช่วงเวลาที่ให้โทษเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การงานอาชีพที่กระทำ เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายเช่นบิดา และยิ่งจุดวิกลคติของเสาร์ บังเอิญไปเท่าถึงจุดองศาของอาทิตย์เดิมจัดว่าเป็นช่วงเวลาร้ายแรง
เสาร์ที่โคจรมาเป็นโยคร้ายกับดวงอาทิตย์คือเสาร์จรเข้ามามีระยะเชิงมุมเป็น๙๐องศาหรือ๑๘๐องศา เล็งกับอาทิตย์พอดีล้วนแต่ให้ผลร้ายนั้น โดยเฉพาะระยะเชิงมุม๙๐องศา ข้างหลังคือนับจากตำแหน่งดาวอาทิตย์เดิมในดวงชะตาไป ๔ราศี เผอิญ มีเสาร์จรเข้ามาสถิตย์ในราศีนั้นเมื่อวัดเชิงมุมได้ ๙๐ องศาพอดีขณะที่มีองศาหรือจากราศีที่๑๐ ที่เสาร์จรไปสถิตย์อยู่นั้นมีอาทิตย์เดิมในดวงชะตาสถิตย์อยู่เมื่อเสาร์จรเท่ากับองศาอาทิตย์เดิมเมื่อใด จะก่อทุกข์โทษให้ทันที
อาทิตย์กับเสาร์ในชาตาใด ถ้าสถิตย์อยู่ในระยะเชิงมุมเป็นโยคดี เช่นห่างกัน ๖๐ องศา หรือ ๑๒๐ องศา จะช่วยให้เจ้าชะตามีความสามารถในด้านการครองชีพ ฐานะทางการเงินดีแต่มีเงินจากโยคอันเกิดจากเสาร์นี้เป็นไปอย่างกระเบียดกระเสียรเหนียวแน่น
เสาร์กับอาทิตย์เมื่อโคจรไปต้องกันคือเสาร์โคจรไปทับอาทิตย์เดิม หรืออาทิตย์โคจรไปทับเสาร์เดิมเป็นช่วงเวลาที่ไม่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าทับอาทิตย์เดิม ถึงองศากันพอดี จะเป็นช่วงเวลาที่ให้โทษเกี่ยวกับที่อยู่อาศัย การงานอาชีพที่กระทำ เกิดความยุ่งยากเกี่ยวกับญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชายเช่นบิดา และยิ่งจุดวิกลคติของเสาร์ บังเอิญไปเท่าถึงจุดองศาของอาทิตย์เดิมจัดว่าเป็นช่วงเวลาร้ายแรง
เสาร์ที่โคจรมาเป็นโยคร้ายกับดวงอาทิตย์คือเสาร์จรเข้ามามีระยะเชิงมุมเป็น๙๐องศาหรือ๑๘๐องศา เล็งกับอาทิตย์พอดีล้วนแต่ให้ผลร้ายนั้น โดยเฉพาะระยะเชิงมุม๙๐องศา ข้างหลังคือนับจากตำแหน่งดาวอาทิตย์เดิมในดวงชะตาไป ๔ราศี เผอิญ มีเสาร์จรเข้ามาสถิตย์ในราศีนั้นเมื่อวัดเชิงมุมได้ ๙๐ องศาพอดีขณะที่มีองศาหรือจากราศีที่๑๐ ที่เสาร์จรไปสถิตย์อยู่นั้นมีอาทิตย์เดิมในดวงชะตาสถิตย์อยู่เมื่อเสาร์จรเท่ากับองศาอาทิตย์เดิมเมื่อใด จะก่อทุกข์โทษให้ทันที
ในดวงชะตาของผู้ใดก็ตาม หากดาวเสาร์เข้าไปอยู่ในภพที่๑๐ แล้ว และมีระยะเชิงมุมเป็น๑๘๐ องศากับอาทิตย์ คืออาทิตย์อยู่ในภพที่๔และเสาร์อยู่มนภพที่๑๐ เล็งกันได้องศาพอดีเจ้าชะตาจะได้รับอันตรายหรือตกจากที่สูงๆ
ในวันใดก็ตามที่อาทิตย์จรตามปฎิทิน เข้าไปร่วมราศีร่วมองศากับดาวเสาร์จรหรือเล็งกัน เป็น๑๘๐องศาพอดี วันนั้นบรรยากาศตึงเครียดจะพูดจากับใครต้องระวังการขัดแย้ง เป็นช่วงระยะเวลาอุบัติเหตุ ไม่สมควรริเริ่มงานที่หวังผลในระยะยาวจะทำให้ความหวังเลื่อนลอยล้มเหลวได้
ขอบคุณวิชาโหราศาสตร์และ ข้อมูลจากตำราของอาจารย์ ศ ดุสิต และจากตำราของอาจารย์เทพ สาริกบุตรและการศึกษาจากหลายท่านอาจารย์ด้วยความเคารพไว้ณ ที่นี้
ขอบคุณที่ติดตามเพจfacebook และฝาก กด LIkeด้วยค่ะ#Zodietcwise
ปรึกษาส่วนบุคคลได้ค่ะ เชิญทางไลน์ค่ะ #Zodietcwise
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น