จริตในใจของมนุษย์

จริตในใจของมนุษย์
คำว่าจริต คืออารมณ์ที่ชอบท่องเที่ยวไปของจิต มีความเชื่อว่า ที่มนุษย์มีจริตต่าง ๆ กัน ก็เนื่องมาจากการบำเพ็ญบุญกุศลแต่ชาติปางก่อนนั้น ได้กระทำไปไม่เหมือนกัน จึงได้รับผลไม่เหมือนกัน มี ๖ จริตคือ
ราคะจริต แสดงได้ด้วย ดาวศุกร์ ๖ คือ ผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางราคะ รักสวยรักงาม ละมุนละไม ชอบสิ่งที่สวยๆ เสียงเพราะๆ กลิ่นหอมๆ รสอร่อยๆ สัมผัสที่นุ่มละมุน และจิตใจจะยึดเกาะกับสิ่งเหล่านั้นได้เป็นเวลานานๆ
ผู้ที่มีราคจริตนั้น ธาตุทั้ง ๔ คือ ปฐวีธาตุ อาโปธาตุ เตโชธาตุ และวาโยธาตุ นั้นมีกำลังเสมอทัดเทียมกัน
โทสะจริต แสดงด้วยดาวอังคาร๓ คือ ผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางโทสะ ใจร้อน วู่วาม หงุดหงิดง่าย อารมณ์รุนแรง โผงผาง เจ้าอารมณ์ผู้ที่มีโทสจริตนั้น เตโชธาตุและวาโยธาตุ มีกำลังมาก
โมหะจริต แสดงด้วยดาวราหู ๘ คือ ผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางโมหะ เขลา เซื่องซึม เชื่อคนง่าย งมงาย ขาดเหตุผล มองอะไรไม่ทะลุปรุโปร่ง
ผู้ที่มีโมหจริตนั้น ปฐวีธาตุและอาโปธาตุ มีกำลังมาก
วิตกจริต แสดงด้วยดาวเสาร์ ๗ คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางฟุ้งซ่าน คิดเรื่องนี้ทีเรื่องนั้นที เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ไม่สามารถยึดเกาะกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นานๆ คำว่าวิตกในภาษาบาลีคือการยกจิตขึ้นสู่อารมณ์ หรือการเพ่งจิตสู่ความคิดในเรื่องต่างๆ ไม่ได้หมายถึงความกังวลใจ วิตกจริตจึงหมายถึง ผู้ที่เดี๋ยวยกจิตสู่เรื่องโน้น เดื๋ยวยกจิตสู่เรื่องนี้ ไม่ตั้งมั่น ไม่มั่นคงนั่นเอง
ศรัทธาจริต แสดงด้วยดาวพุธ ๔ คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางศรัทธา น้อมใจเชื่อ เลื่อมใสได้ง่าย ซึ่งถ้าเลื่อมใสในสิ่งที่ถูกก็ย่อมเป็นคุณ แต่ถ้าไปเลื่อมใสในสิ่งที่ผิดก็ย่อมเป็นโทษต่างจากโมหจริตตรงที่โมหจริตนั้นเชื่อแบบเซื่องซึม ส่วนศรัทธาจริตนั้นเชื่อด้วยความเลื่อมใส เบิกบานใจ
พุทธิจริต แสดงด้วยดาวพฤหัสบดี ๕ คือผู้มีปกตินิสัยหนักไปทางชอบคิด พิจารณาด้วยเหตุผลอย่างลึกซึ้ง ชอบใช้ปัญญาพิจารณาตามความเป็นจริง ไม่เชื่ออะไรโดยไม่มีเหตุผล
ในจริตทั้ง ๖ อย่างท่านสงเคราะห์ด้วยความเสมอภาคกันได้เป็น ๓ คู่ คือ

ราคจริต กับ ศรัทธาจริต
โทสจริต กับ ปัญญาจริต
โมหจริต กับ วิตกจริต

ได้มีการนำจริตมาผสมผสานกับราศีทางโหราศาสตร์ว่าจะมีพฤติกรรมของจิตที่ท่องไปตามอารมณ์เบื้องต้นที่มาชี้นำโดยอาศัยดาวเจ้าเรือนของแต่ละราศีมาเป็นตัวแบ่งเบื้องต้นตามด้านล่าง โดยความเป็นจริงแล้ว คนเรามักมีจริตมากกว่า ๑ อย่างผสม โดยรวมคือ ๑๔ จริต

คนที่เกิดราศีเมษ เป็นคนมี “โทสะจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีพฤษภ เป็นคนมี “ราคะะจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีมิถุน เป็นคนมี “ศรัทธาจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีกรกฎ เป็นคนมี “ราคะจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีสิงห์ เป็นคนมี “โทสะจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีกันย์ เป็นคนมี “ศรัทธาจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีตุลย์ เป็นคนมี “ราคะจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีพิจิก เป็นคนมี “โทสะจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีธนู เป็นคนมี “พุทธิจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีมกร เป็นคนมี “วิตกจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีกุมภ์ เป็นคนมี “โมหะจริต” เป็นตัวนำ
คนที่เกิดราศีมีน เป็นคนมี “พุทธิจริต” เป็นตัวนำ
โดยสรุป วิธีแก้จริตทั้ง ๖ โดยการทำกรรมฐานเจริญภาวนา

ราคจริต แก้ด้วยวิธีพิจารณาอสุภกรรมฐาน

โทสจริต แก้ด้วยการเจริญเมตตาพรหมวิหาร

โมหจริต แก้ด้วยการศึกษาไต่ถาม การเจริญสติ

วิตกจริต แก้ด้วยบริกรรมภาวนา

ศรัทธาจริต แก้ด้วยการศึกษา ด้วยการภาวนา

พุทธิจริต แก้ด้วยการเจริญปัญญา
การเรียนรู้เรื่องจริตของเราเองจะทำให้เราทราบว่าจิตของเราเป็นอย่างไรเวลามีการกระทบโดยอายตนะภายนอกและใน การปรับเปลี่ยนการรับรู้ของจิตจะช่วยให้นิสัยของเราดีขึ้น จิตใจจะขุ่นมัวน้อยลง ยิ่งหากได้การฝึกภาวนาหรือกรรมฐานจะช่วยให้สามารถนำไปปรับปรุงนิสัยตนเองได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเองในระยะยาวค่ะ

ความคิดเห็น